นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน ) เปิดเผยว่า เพื่อมอบสวัสดิการเพิ่มเติม อันเป็นการสร้างหลักประกันชีวิตที่มั่นคง ให้กับกำลังพลของกองทัพบกและครอบครัว รวมถึงตอบแทนความเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประเทศ กองทัพบกจึงร่วมกับบริษัทฯ ลงนามต่อสัญญาประกันชีวิตทหารต่อเนื่องเป็นปีที่ 31 โดยให้ความคุ้มครองกำลังพลทุกระดับชั้น ทั้งในยามสงบและยามสถานการณ์ปกติ ระยะเวลาความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 – 31 มีนาคม 2561
บริษัทฯ ได้พัฒนากรมธรรม์ 3 แบบ ประกอบด้วย กรมธรรม์แบบภัยสงคราม ให้ความคุ้มครองกำลังพลที่ออกปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งในและนอกประเทศ ทั้งกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพจนถูกปลดประจำการ
สำหรับนายทหารชั้นสัญญาบัตร, นายทหารชั้นประทวน, พลทหารประจำการ, พลทหารกองประจำการ, พลอาสาพิเศษอาสาสมัครทหารพราน, อาสาสมัครทหารพราน, ลูกจ้างประจำ, ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ
กรมธรรม์แบบพิทักษ์พล ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ สำหรับนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ, นักเรียนแพทย์ทหาร, นักเรียนพยาบาลกองทัพบก, นักเรียนนายสิบ, นักเรียนดุริยางค์ทหารบก, นักเรียนผู้ช่วยพยาบาลทหารบก และพลทหารกองประจำการ
และ กรมธรรม์แบบพิทักษ์พลพิเศษ ให้ความคุ้มครองข้าราชการและลูกจ้างที่ปฏิบัติหน้าที่ในยามปกติ ได้แก่ ข้าราชการชั้นสัญญาบัตร, ลูกจ้างประจำชั้นสัญญาบัตร, ข้าราชการชั้นประทวน ลูกจ้างประจำต่ำกว่าสัญญาบัตร, พลอาสาสมัคร, พลอาสาพิเศษ, อส.ทพ., อส.ทพ., ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ รวมถึงคุ้มครองกรณีปฏิบัติภารกิจการใช้อากาศยาน จะได้รับความคุ้มครองเป็น 2 เท่า
ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทฯ ยังได้ขยายความคุ้มครองสำหรับกำลังพลของกองทัพอากาศ โดยให้ความคุ้มครองแก่นักบินและกำลังพลที่อยู่ในแผนป้องกันประเทศ หรือเป็นผู้ได้รับเงินค่าฝ่าอันตราย กำลังพลที่สนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงกำลังพลที่อยู่ตามพื้นที่เสี่ยงภัยอื่นๆ และขยายความคุ้มครองกำลังพลของกองทัพเรือ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ จังหวัดจันทบุรีและตราด และหน่วยเฉพาะกิจที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพื้นที่ชายแดน รวมถึงกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนใต้ และกำลังพลของหน่วยงานสังกัดกระทรวงกลาโหม
“ไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่รับประกันชีวิตทหาร โดยมิได้แสวงหากำไร เนื่องจากหากปีใดมีการจ่ายสินไหมทดแทนต่ำกว่าเบี้ยประกันรับ บริษัทฯ จะคืนเงินส่วนเกินแก่กองทัพบกเพื่อนำไปใช้เป็นสวัสดิการต่อไป ซึ่งการรับประกันชีวิตทหาร ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมที่อยู่ในกระบวนการดำเนินธุรกิจ หรือ CSR in Process ของบริษัทฯ สอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทฯ ในการเป็นองค์กรที่ดีของสังคมไทย” นายไชยกล่าว
โดยตั้งแต่รับประกันชีวิตทหารจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ จ่ายสินไหมทดแทนแก่ทหารที่ทุพพลภาพและเสียชีวิตรวมกว่า 16,000 นาย คิดเป็นเงินสินไหมทดแทนรวมกว่า 1,011,000,000 บาท และคืนเงินส่วนเกินแก่กองทัพบกเพื่อเป็นสวัสดิการแล้วจำนวนทั้งสิ้น 23,770,000 บาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนับสนุนภารกิจของทหารในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆ อาทิ การมอบอาหารและน้ำดื่มช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการส่งมอบผ้าห่มกันหนาวผ่านกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ในกิจกรรม “ปันไออุ่น ต้านภัยหนาว” เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ เพื่อกองทัพบก อาทิ สนับสนุนสโมสรฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนเต็ด สนับสนุนกิจกรรมวิ่งการกุศล “Run Hero Run ฉันจะวิ่งเพื่อเธอ” เพื่อรณรงค์จัดหารายได้ในการซื้อเสื้อเกราะสำหรับทหารชายแดนภาคใต้ใช้ในการปฏิบัติภารกิจ เป็นต้น
ข่าวเด่น