เอไอเอสยืนยันความมั่นใจให้แก่ลูกค้าว่า ปัจจุบันเครือข่ายครอบคลุมแล้วถึง 98.7% ของพื้นที่ประชากร สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ให้บริการ ยืนยันจากผลรายงานการตรวจสอบของ กสทช. ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา
ในการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ครั้งที่ 9/2560 วันที่ 28 มีนาคม 2560 โดย 1 ในวาระการประชุมได้แก่ ผลการตรวจสอบการจัดให้มีโครงข่ายโทรคมนาคมตามเงื่อนไขใบอนุญาตของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่น 2100 MHz ซึ่งสืบเนื่องจาก กสทช. ได้ให้ใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแก่ บจ. แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค บจ. ดีแทค ไตรเน็ต และ บจ. ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น เพื่อประกอบกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลบนย่านความถี่ 2100 MHz เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2555 ซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีโครงข่ายในการให้บริการครอบคลุมครบทุกจังหวัดและครอบคลุมจำนวนประชากรไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายใน 4 ปีนับจากวันที่ได้รับใบอนุญาต และต้องรองรับอัตราความเร็วในการส่งข้อมูลไม่น้อยกว่าอัตราที่กำหนดตามหลักเกณฑ์ว่าด้วยมาตรฐานและคุณภาพการให้บริการโทรคมนาคมประเภทข้อมูลที่ประกาศกำหนด
โดยรายงานจาก สำนักงาน กสทช. ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตทั้งสามรายมีการติดตั้งโครงข่ายครอบคลุมทุกจังหวัดแล้ว และครอบคลุมจำนวนประชากรเกินกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดย บจ. แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค มีการติดตั้งโครงข่ายครอบคลุมประชากร คิดเป็นร้อยละ 98.72 ส่วน บจ. ดีแทค ไตรเน็ต มีการติดตั้งโครงข่ายครอบคลุมประชากรคิดเป็นร้อยละ 86.02 และ บจ. ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น มีการติดตั้งโครงข่ายครอบคลุมประชากรคิดเป็นร้อยละ 81.4 ดูรายละเอียดรายงานผลเครือข่ายได้ที่ http://nbtcrights.com/agenda/8197
ทั้งนี้เอไอเอส ต้องขอขอบคุณ กสทช. ที่ได้กรุณาตรวจสอบและรายงานข้อมูลอันก่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ประชาชน และเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ โดยสำหรับเอไอเอสในปีนี้ ได้เตรียมงบประมาณไว้ราว 4 หมื่นล้านบาท ที่จะได้เร่งพัฒนาเครือข่าย ยกระดับคุณภาพ รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ทั้งในจุดที่ครอบคลุมและมีคุณภาพดีอยู่แล้ว รวมไปถึงในบริเวณที่ต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วนต่อไป
ข่าวเด่น