นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 มีมติเห็นชอบหลักการให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโต จีพี ในปี 2561-2563 (3 ปี) ซึ่งเป็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรับรองการแข่งขันโดยสมาพันธ์จักรยานยนต์นานาชาติ หรือ FIM นั้น จะสามารถส่งเสริมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและนำประเทศไทยไปสู่การเป็น Sport Hub ชั้นนำระดับโลก เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560-2564) รวมทั้งเป็นการวางรากฐานการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) ซึ่งทำให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดอุตสาหกรรมกีฬาและส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศในด้านต่างๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ การแข่งขัน Moto GP ส่งผลดีต่อประเทศไทยใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก โดยจะมีการถ่ายทอดสดมากกว่า 200 ประเทศ ผ่านสายตาผู้ชมกว่า 600 ล้านคน จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในหลายๆ ด้าน เช่น ด้านกีฬา การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และสังคม
2.เปิดประตูการท่องเที่ยวสู่ภาคอีสาน อันจะก่อให้เกิดการกระจายรายได้บริเวณจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร และอุบลราชธานี และทำให้ท้องถิ่นมีโอกาสในการขยายตัวและกระตุ้นการค้าขายในภาค SME พร้อมทั้งขยายการจ้างแรงงานท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น คาดว่าทำให้มีเงินหมุนเวียนเข้าประเทศไม่น้อยกว่า 1,895 พันล้านบาท
3.เพิ่มรายได้และขยายอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้จะมีการนำเทคโนโลยี องค์ความรู้ เกี่ยวกับวงการอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์เข้ามา และเป็นการยกระดับการจัดการแข่งขันในประเทศให้ได้มาตรฐานระดับสากล สร้างความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้มีความตื่นตัวและสร้างความเชื่อมั่น ความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลก
ข่าวเด่น