จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวตามไปด้วย นอกจากนี้ การที่ก้าวเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนแล้วเจอสภาพอากาศที่ไม่ร้อนอย่างที่คาดการณ์ และในทางตรงกันข้ามกลับมีฝนตกเป็นระยะๆ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับผลกระทบไปแบบเต็มๆ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทำความเย็น เนื่องจากหน้าร้อนถือเป็นช่วงเวลาเวลาที่สำคัญของการขายสินค้ากลุ่มดังกล่าว
ผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเริ่มออกมาคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 นี้ น่าจะยังคงมีการขยายตัวติดลบต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาประมาณ 1-2% จากปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 24,000 ล้านบาท
ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเริ่มออกมาปรับแผนการทำตลาด ด้วยการหันมาปรับแผนการตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางบน หรือพรีเมียมแมสมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ดี เมื่อเทียบกับกลุ่มเป้าหมายระดับล่างที่กำลังซื้อยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่ง บริษัท เบโค(ไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจากประเทศตุรกี ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ออกมาปรับแผนการทำตลาดในรูปแบบดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
นายพรชัย ตระกูลเตชะเดช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและวางแผนผลิตภัณฑ์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค บริษัท เบโค (ไทย) จำกัด กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ภาพรวมการแข่งขันของกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านปีนี้ ยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรงเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งกลยุทธ์ที่นำมาใช้ในการแข่งขันปีนี้ยังคงเน้นไปในเรื่องของการปรับลดราคาสินค้า เนื่องจากสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยในส่วนของปีนี้คาดว่าจะมีการลดราคาสินค้าในกลุ่มเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า สูงสุดที่ประมาณ 50%
ด้าน นายซาแฟร์ อัสทูเนอร์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท เบโค (ไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะแนะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมาตรฐานยุโรปเข้ามาทำตลาดมากกว่า 100 รายการ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นสมาร์ท เจเนอเรชั่น และตอกย้ำความเป็นคู่หูหลักในทุกวันของผู้บริโภค โดยในครึ่งปีแรกบริษัทมีสินค้าไฮไลต์ที่จะนำเข้ามาทำตลาด คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องครัวที่มาพร้อมกับสมาร์ท โซลูชั่น เนื่องจากพบว่าปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจทำอาหารรับประทานเองที่บ้านและคำนึงถึงสุขภาพและคุณค่าทางอาหารมากขึ้น
ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว บริษัท เบโคฯ จึงมองเห็นโอกาสทางการตลาดของเซกเม้นต์เครื่องครัวในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการทำให้ผู้บริโภคคนไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ด้วยนวัตกรรมที่สามารถช่วยให้ทุกเรื่องในครัวเป็นเรื่องที่ง่าย ด้วยเทคโนโลยีที่ บริษัท เบโคฯ ออกแบบมาเจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับพรีเมี่ยมที่เป็นสมาร์ท เจเนอเรชั่น ซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีของเบโคที่เน้นเรื่องคุณค่าของอาหาร (Nutrition) ด้วยเทคโนโลยีนีโอฟรอสต์ในตู้เย็นของเบโคเป็นระบบทำความเย็นแยกส่วนอัจฉริยะ ช่วยคงความสดใหม่และรักษาคุณค่าของอาหารได้ยาวนานขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องครัวที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่บริษัท เบโค่ฯ เปิดตัวเข้ามาทำตลาดในปีนี้ ประกอบด้วย เตาอบบิวท์อิน ซึ่งจะมีจุดเด่นในด้านของเทคโนโลยี Surf ระบบลมร้อนหมุนเวียนของเตาอบเบโคทำให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง เพื่อให้อาหารจานเด็ดที่คุณสร้างสรรค์กลายเป็นจานที่สมบูรณ์แบบ และยังช่วยประหยัดเวลาการทำอาหารได้มากถึง 30% (Time Saving)
นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นในด้านของเทคโนโลยี Split & Cook เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน (Eco-Friendly and Energy Efficient) สามารถทำอาหารได้ 2 ชนิดพร้อมกันแบบแยกอุณหภูมิเหมือนมีเตาอบ 2 ตัวในเครื่องเดียว ประหยัดพลังงานได้ถึง 40% เมื่อใช้เฉพาะส่วนล่างในการทำอาหาร
ส่วนผลิตภัณฑ์ตัวต่อไป ที่บริษัท เบโคฯ ได้นำเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาร่วมพัฒนาสินค้า คือ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี IndyFlex ของเตาไฟฟ้าซึ่งมีความยืดหยุ่น (Flexibility) ช่วยให้คุณสามารถกำหนดการทำอาหารได้อย่างอิสระถึง 8 โซน สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ได้อย่างแท้จริง
นายซาแฟร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของครึ่งปีหลัง บริษัทจะมุ่งเน้นการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า เนื่องจากเทรนด์เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มาแรง รวมทั้งการเปิดรับการอบผ้ามากขึ้น เพราะสะดวกรวดเร็วกว่าการตากผ้าปกติ และจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว ในอนาคตอันใกล้นี้บริษัทมีแผนที่จะเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าฝาหน้าในประเทศไทย หลังจากปีที่ผ่านมาได้ใช้งบไปกว่า 3,000 ล้านบาท ลงทุนสร้างโรงงานผลิตตู้เย็นที่จังหวัดระยอง ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเดินสายการผลิตไปเรียบร้อยตั้งแต่ปลายปี 2559 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 3 แสนยูนิตต่อปี โดยในส่วนของกำลังการผลิตดังกล่าวจะมีทั้งการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปทำตลาดในต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัท เบโค่ฯ ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอื่นๆ อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านขนาดเล็ก ประกอบไปด้วย เครื่องดูดฝุ่น เตารีด และเครื่องทำน้ำอุ่น ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ มาสนองความต้องการอย่างครบทุกความต้องการภายในบ้าน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเบโคทั้งหมดยังมีดีไซน์ที่สวยงาม ขนาดมาตรฐาน ที่สามารถบิ้วท์อินในห้องครัวและส่วนต่างๆ ของบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับกลยุทธ์การเดินหน้าเจาะตลาดประเทศไทยของเบโคในปีนี้ นอกจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบครบทุกความต้องการในบ้านแล้ว บริษัท เบโคฯ ยังจะใช้งบลงทุนในด้านดิจิตัลมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุระหว่าง 25 - 45 ปี ที่มีความเป็น สมาร์ท เจเนอเรชั่น
พร้อมกันนี้ ยังมีแผนทำการตลาดระดับภูมิภาค เจาะตลาดต่างจังหวัด โดยการเพิ่มศูนย์บริการตามหัวเมืองใหญ่ๆ ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างเชียงใหม่และขอนแก่น รวมทั้งการเพิ่มจำนวนร้านค้าทั่วประเทศให้มากกว่า 300 แห่งภายในปีนี้ พร้อมกับส่งเสริมโปรโมชั่นร่วมกับคู่ค้าในต่างจังหวัด เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมทั้งการพัฒนาการบริการหลังการขายให้มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคคนไทยที่คำนึงถึงการบริการหลังการขายเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
หลังจากออกมาปรับกลยุทธ์การทำตลาดอย่างเข้มข้น บริษัท เบโคฯ มั่นใจว่า สิ้นปี 2560 นี้ จะมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน และภายในอีก 5 ปีนับจากนี้ จะมีส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ได้อย่างแน่นอน
ข่าวเด่น