ฟู้ดแพชชั่น ผู้ดำเนินการร้านอาหารชื่อดังแบรนด์ “บาร์บีคิวพลาซ่า” “จุ่มแซบฮัท” และ “ฮ็อทสตาร์” ต่อยอดความสำเร็จใส่เกียร์เดินหน้ารุกขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ตั้งเป้าดันแบรนด์เรือธง “บาร์บีคิวพลาซ่า” ขึ้นแท่น Regional Brand ภายในปี 2563 พร้อมประกาศข่าวดีรุกตลาดแรกในกัมพูชา จับมือ เอ็กซ์เพรส ฟู้ด กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รับสิทธ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ดำเนินธุรกิจร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว เตรียมทุ่มงบ 150 ล้านบาท ตั้งเป้าเปิด 10 สาขาในกัมพูชาภายในปี 2565 ล่าสุดฟันธงเปิดรวด 2 สาขาใจกลางกรุงพนมเปญปีนี้
นางชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เผยวิสัยทัศน์ในการเดินหน้ารุกขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ในครั้งนี้ว่า “เรามีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำแบรนด์ไทยอย่างบาร์บีคิวพลาซ่าให้ขึ้นไปสู่การเป็น Regional Brand ตั้งเป้าขยายสาขารวมไม่น้อยกว่า 30 สาขาทั่วภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV โดยคาดว่าธุรกิจต่างประเทศจะทำยอดขายไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท ในปี 2563 ซึ่งในปีนี้เตรียมบุกตลาดในกัมพูชาผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในรูปแบบมาสเตอร์แฟรนไซส์เป็นครั้งแรก ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศกัมพูชา ที่มีความโดดเด่นทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย
1) ศักยภาพด้านเศรษฐกิจ : กัมพูชาถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) เฉลี่ยแตะ 7.2% (ในปี 2557 ข้อมูลจาก International Monetary Fund (IMF) จึงถือเป็นตลาดที่มีอนาคตสดใสและเป็นโอกาสที่ดีในการทำธุรกิจ
2) ศักยภาพด้านประชากร: การเติบโตของรายได้ประชากรชนชั้นกลางและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบว่าประชากรรุ่นใหม่ 13% ของประชากรในพนมเปญ มีรายได้มากกว่า 600 – 1,000 ดอลล่าห์สหรัฐ/เดือน (หรือประมาณ 21,000 - 35,000 บาท/เดือน) ส่วนอีก 6% มีรายได้มากกว่า 1,000 – 2,000 ดอลล่าห์สหรัฐ/เดือน (หรือประมาณ 35,000 -70,000 บาท/เดือน) ในขณะที่ค่าครองชีพถูกจึงทำให้ศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอยของคนในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจบริการประเภทร้านอาหารเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์อย่างสูงจากการเติบโตรายได้ประชากรชนชั้นกลางและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของประชากรกัมพูชา อีกทั้งสัดส่วนของประชากรคนรุ่นใหม่ที่มีเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้เกิดการเติบโตและเปลี่ยนแปลงไลฟสไตล์ของชุมชนเมืองอย่างรวดเร็ว
3) ใกล้เคียงทางวัฒนธรรมและไลฟสไตล์การกิน : ประเทศกัมพูชามีสังคมและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไลฟสไตล์การกินที่คล้ายกับคนไทยที่ชื่นชอบร้านอาหารที่มีคุณภาพทั้งในด้านสินค้าบริการ การตกแต่งและบรรยากาศของร้าน อีกทั้งมีความนิยมบริโภคอาหารปิ้งย่างที่เป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจของบาร์บีคิวพลาซ่า
4)ชื่นชอบแบรนด์ไทย : ผู้คนในประเทศกัมพูชามีทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ไทย และมีความคุ้นเคยกับแบรนด์ไทย เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้ประชากรส่วนใหญ่บริโภคสื่อไทย และนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองไทย
ด้วยปัจจัยบวกทั้ง 4 ด้าน ทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่าการเดินหน้ากลยุทธ์ขยายธุรกิจในประเทศกัมพูชา ผ่านแบรนด์เรือธงอย่างบาร์บีคิวพลาซ่าจะสามารถประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ รวมถึงความพร้อมของระบบแฟรนไชส์ทั้งหนังสือคู่มือแนะนำแบรนด์และการสร้างแบรนด์ พร้อมด้วยคู่มืออื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยข้อมูลและองค์ความรู้ในการบริหารจัดการและพัฒนาแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าในตลาดใหม่ รวมถึงทีมสนับสนุนการทำงานของแฟรนไซส์ทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้ระบบแฟรนไชส์ของบาร์บีคิวพลาซ่าเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้หลักคิดสำคัญ คือ เน้นการส่งมอบประสบการณ์ พร้อมมาตรฐานสินค้าและบริการในแบบฉบับบาร์บีคิวพลาซ่าให้กับการลูกค้าทั่วภูมิภาค ที่จะส่งผลให้แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าของคนไทยจะสามารถสยายปีกทั่วภูมิภาคได้อย่างสง่างาม มั่นคงและยั่งยืน
และเพื่อเดินหน้าโรดแมพนำแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าสู่ภูมิภาคอาเซียน ล่าสุด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ได้ประกาศเปิดตัวพันธมิตรยักษ์ใหญ่ บริษัท เอ็กเพรส ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (Express Food Group หรือ EFG) หนึ่งในผู้บริหารธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารชั้นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชียอะวันออกเฉียงใต้และผู้ประกอบการร้านอาหารรายใหญ่ที่สุดของประเทศกัมพูชา โดยได้ลงนามสัญญาแต่งตั้งให้ EFG ได้รับสิทธิเป็น Master Franchise ในรูปแบบ Area Development Franchise ในประเทศกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว เพื่อให้การเจาะกลุ่มตลาดกัมพูชาทำโดยผู้ประกอบการที่มีความรู้ความชำนาญในประเทศ และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการรุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน
“หลายปีที่ผ่านมา เราได้รับการติดต่อจากกลุ่มธุรกิจชั้นนำในหลายประเทศเพื่อขอซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ของบาร์บีคิวพลาซ่า ซึ่งนโยบายของฟู้ดแพชชั่นเรามีความชัดเจนในการขยายธุรกิจที่ไม่ได้เน้นการขยายสาขาจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้นเป็นหลัก แต่มองการสร้างฐานแบรนด์ร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าให้มีความยั่งยืนในระยะยาวเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงมองหาพันธมิตรที่มีความคิดแบบเดียวกันที่จะช่วยส่งเสริมให้แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าเติบโตอย่างมั่นคงในดินแดนใหม่ ดังนั้นการขยายตลาดในต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยให้ความสำคัญกับการคัดเลือกพันธมิตร ผ่านกลยุทธ์สำคัญ 3 ข้อ คือ Win-Win Strategy ที่คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจในอันที่จะสร้างผลประโยชน์ให้เกิดขึ้นร่วมกันทั้งสองฝ่าย Partnership Relations คือสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรแบบยั่งยืนบนพื้นฐานแห่งความเชื่อใจ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความคล่องตัวและราบรื่น และ Effective Support คือ สร้างระบบให้การสนับสนุนจากส่วนกลางที่ทำให้การดำเนินงานต่างๆ ในพื้นที่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก ได้มาตรฐาน และทันท่วงที ด้วย 3 กลยุทธ์นี้ เราเชื่อว่าจะทำให้การขยายตลาดต่างประเทศเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเราพบว่า EFG คือพาร์ทเนอร์ที่จะสามารถเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความสำเร็จของการขยายฐานร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าไปยังกัมพูชาได้อย่างดีที่สุด” นางชาตยา กล่าวเสริม
นอกจากความพร้อมของ EFG ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแบ็คกราวด์ของบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการบริหาร แบรนด์ร้านอาหารชื่อดังมาโดยเฉพาะกว่า 12 ปี การมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารแบรนด์ร้านอาหารในระบบแฟรนไชส์ ในด้านอื่นๆ EFG ยังเป็นบริษัทที่มีความคิดและความเชื่อเดียวกันกับฟู้ดแพชชั่น คือ ให้ความสำคัญกับการสร้างคนเพื่อต่อยอดไปสู่การมอบมื้อแห่งความสุขให้กับลูกค้าเช่นกัน อีกทั้งยังมีความสามารถในการบริหารงานร้านอาหารในหลากหลายรูปแบบ มีความเข้าใจในระบบแฟรนไชส์ สามารถรักษาความเป็นมาตรฐานเดียวกันของบาร์บีคิวพลาซ่าเฉกเช่นเดียวกับประเทศไทย และที่สำคัญ EFG เป็น Market Expert ที่มีความเข้าใจตลาดในพื้นที่ของกัมพูชาเป็นอย่างดี
นายเควิน วิทคราฟท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป จำกัด บริษัมแม่ของ EFG ได้กล่าวว่า EFG ถือเป็นผู้นำในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้มีการดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว และพม่า โดยปัจจุบันมีการขยายแฟรนไชส์ผ่านแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลกรวมกว่า 50 ร้านในกัมพูชา โดยที่ผ่านมา มีความต้องการที่จะเพิ่มแบรนด์ร้านปิ้งย่างที่มีศักยภาพในพอร์ทธุรกิจ เนื่องจากร้านอาหารปิ้งย่างเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารในกลุ่ม Self-cooking ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกัมพูชา ดังนั้นเมื่อเห็นความสำเร็จของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าในเมืองไทยและในต่างประเทศ รวมถึงระบบแฟรนไซส์ที่มีประสิทธิภาพของบาร์บีคิวพลาซ่า จึงทำให้เรามีความเชื่อมั่นที่จะนำประสบการณ์ของมื้ออาหารที่ดีที่สุดในแบบฉบับของบาร์บีคิวพลาซ่ามาสู่ชาวกัมพูชา
สำหรับภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในกัมพูชามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 มีมูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ (หรือกว่า 140,000 ล้านบาท) โดยปัจจุบันมีร้านอาหารที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เปิดให้บริการถึง 2,000 – 2,500 ร้านทั่วประเทศ และเฉพาะในพนมเปญมีจำนวนสูงถึง 1,000 ร้าน ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น เสียมเรียบ, เพร ศรีหะนุ, พระตะบอง, และ กำปงจาม นอกจากนี้ ปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจ อาทิ รายได้ประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวกัมพูชามีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำงานและผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ อีกทั้งไลฟสไตล์ที่เปลี่ยนไปของชาวกัมพูชารุ่นใหม่ที่นิยมการรับประทานอาหารนอกบ้านและการเฉลิมฉลองนอกบ้าน ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติของครอบครัวกัมพูชาและผู้บริโภควัยหนุ่มสาว โดยพบว่ามีอัตราเฉลี่ยของการออกมารับประทานอาหารนอกบ้านถึงคนละ 2-3 ครั้งต่อเดือน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายต่อหัวเฉลี่ยมื้อละ 5 ดอลล่าห์ (สำหรับมื้อกลางวัน) และ10 ดอลล่าห์ (สำหรับมื้อค่ำ)
นอกจากนี้ นายเควิน ได้กล่าวถึงกลยุทธ์ธุรกิจและแผนการลงทุนในการขยายสาขาบาร์บีคิวพลาซ่าในกัมพูชาว่า กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุด คือ การส่งมอบประสบการณ์ มาตรฐานสินค้าและบริการแบบต้นแบบของบาร์บีคิวพลาซ่าที่มีในเมืองไทยให้กับผู้บริโภคชาวกัมพูชา ซึ่งบาร์บีคิวพลาซ่าถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยมของชาวกัมพูชาที่ชอบเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทย โดยวิธีการทำงานจะเน้นการบริหารธุรกิจตามกรอบของระบบแฟรนไซส์ที่วางไว้ ควบคู่การลงพื้นที่ฝึกอบรมพนักงานและตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพโดยทีมงานของฟู้ดแพชชั่น รวมไปถึงวัตถุดิบสำคัญทั้งหมดจะส่งตรงจากครัวกลางของฟู้ดแพชชั่นไปที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าทุกสาขาในกัมพูชา เพื่อรับรองมาตรฐานรสชาติและความปลอดภัยในคุณภาพของอาหารให้กับผู้บริโภคทุกคน โดยกลยุทธ์การขยายสาขาจะเน้นไปที่พื้นที่ที่มีศักยภาพใจกลางเมือง ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมการตลาดผ่านกลยุทธ์การสร้าง Brand Love ที่เป็นเอกลักษณ์ของบาร์บีคิวพลาซ่า
“ในเบื้องต้นได้เตรียมงบลงทุนไว้กว่า 150 ล้านบาท ในการขยายสาขาบาร์บีคิวพลาซ่ารวมไม่น้อยกว่า 10 สาขา ภายในปี 2565 โดยในปีนี้เราวางแผนเปิด 2 สาขากลางกรุงพนมเปญ โดยสาขาแรกจะตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเมกาโปรเจ็คค์อิออนมอลล์ (AEON Mall) และอีกสาขาจะเปิดในย่านหรู Tuol Kork ในกรุงพนมเปญ” นายเควิน กล่าวในตอนท้าย
ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมธุรกิจในต่างประเทศของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า ในปัจจุบัน มีทั้งสิ้น 19 สาขา ใน 2 ประเทศที่ขยายผ่านโมเดล Joint Venture แบ่งเป็น 17 สาขาในมาเลเซีย, 2 สาขาในอินโดนีเซีย โดยคาดว่าสิ้นปี 2560 นี้ จะมีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 23 สาขา แบ่งเป็น 18 สาขาในมาเลเซีย, 3 สาขาในอินโดนีเซีย และ 2 สาขาในกัมพูชา
ข่าวเด่น