นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ส่งคนกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560” ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 6 กรมการขนส่งทางบก ตามโครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 โดยมี พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด นายสาคร รุ่งสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ 2 นายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ร่วมตรวจเยี่ยมการอำนวยความสะดวกและมอบของที่ระลึกแก่ประชาชนที่มารอขึ้นรถเดินทางกลับภูมิลำเนา ณ กรมการขนส่งทางบก ซึ่งใช้พื้นที่เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารเป็นกรณีพิเศษ ระหว่างวันที่ 10-12 เมษายน 2560 เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนลดความแออัดและปัญหาจราจรติดขัดบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจตุจักร(หมอชิต) รวมทั้ง การบริหารจัดการด้านการให้บริการรถขนส่งมวลชนและรถแท็กซี่เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง
นายสนิท เปิดเผยว่า กิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกนี้ จัดขึ้นทุกปีตามนโยบายกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนมักเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพื่อกำกับดูแลรถโดยสารสาธารณะให้มีความพร้อม ทั้งสภาพตัวรถและพนักงานขับรถ มุ่งเน้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนนและพนักงานขับรถตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสุข ความสะดวก และปลอดภัย โดยได้รับความร่วมมือจาก “พี สะเดิด” ศิลปินจากแกรมมี่โกลด์ ร่วมรณรงค์ด้วย พร้อมกันนี้ ยังจัดเจ้าหน้าที่ตรวจการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวกบริการประชาชน บริหารจัดการรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอ ดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ทั้งที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดเชื่อมต่อหลักต่างๆ ที่มีประชาชนใช้บริการ พร้อมเพิ่มเจ้าหน้าที่สายด่วน 1584 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากการใช้บริการรถสาธารณะตลอด 24 ชั่วโมง
ในด้านความปลอดภัยกรมการขนส่งทางบก มุ่งเน้นการรณรงค์เชิงป้องกัน โดยคุมเข้มสแกนรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถตามมาตรฐานความปลอดภัย (Checklist) ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 212 แห่งทั่วประเทศ โดยดำเนินมาตรการเข้มข้นตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่ 5-24 เมษายน 2560 และต่อเนื่องตลอดปี รวมถึงจุดบริการร่วมคมนาคมอีก 14 จุด ใน 11 จังหวัดทุกภูมิภาค รวมถึงบริหารจัดการเสริมรถ เพิ่มเที่ยวให้บริการ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร หากพบรถโดยสารไม่ปลอดภัย ไม่พร้อมใช้งาน จะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดและสั่งห้ามใช้รถทันที พร้อมนำรถคันใหม่มาเปลี่ยน หากพบพนักงานขับรถมีสภาพไม่พร้อมหรือมีความผิด จะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด ทั้งปรับ พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถและสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมจัดพนักงานขับรถคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินมาตรการเชิงป้องกันต่างๆ ในทางคู่ขนาน บริหารจัดการรถโดยสารสาธารณะด้วยระบบ GPS Tracking ควบคุมพฤติกรรมการใช้ความเร็วด้วยกล้องเลเซอร์ในเส้นทางต่างๆ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดทุกกรณีความผิดที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการ ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการควบคุมการให้บริการต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการเดินรถอย่างเคร่งครัด ห้ามเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด ห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ห้ามใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ใช้บริการ.
ข่าวเด่น