การเลือกตั้งของไทยเป็นสิ่งที่นักลงทุนต่างประเทศให้น้ำหนักในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลมีความชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนการเลือกตั้ง

โดย ดร.ลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโสประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยว่า เศรษฐกิจของไทยในปี 2560 จะขยายตัวที่ระดับ 3.5%   โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของการส่งออก การบริโภคภายในประเทศ ราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น    ปัญหาภัยแล้งหมดไป การลงทุนภาครัฐในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และการผลักดันโครงการ EEC ส่วนในปี 2561 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ระดับ 3.6%

โดยภาคการส่งออกสินค้า เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 2559 ต่อเนื่องถึงเดือนม.ค.2560 ที่ขยายตัวระดับ 8.5% และคาดว่าตัวเลขการส่งออกในปีนี้จะกลับมาอยู่ในแดนบวก และค่อยๆ ขยายตัวดีขึ้นในปีถัดไป โดยคาดว่าปี 2560 จะขยายได้ราว 3% ขณะที่ในปี 2561 จะขยายตัวได้ราว 4%  โดยการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวได้ดี ในยุคอินเทอร์เน็ตคือทุกสิ่ง (Internet of things)
       
สำหรับการนำเข้าสินค้า คาดว่าจะขยายตัวควบคู่ไปกับการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน ความต้องการปัจจัยในการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน เมื่อการนำเข้าสินค้าเริ่มขยายตัว ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเริ่มลดลงจากระดับ 11.4% ของ GDP ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 9.0% ของ GDP ในปีนี้ และ 7.0% ของ GDP ในปี 2561
        

สำหรับปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในปีนี้  คือ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าสัดส่วนการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ จะมีมูลค่าเพียง 11% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดกับห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ส่งออกไทย นโยบายกีดกันการค้าและการตั้งกำแพงภาษีต่อประเทศจีนจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักร
         
ส่วนความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้าย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง อย่างไรก็ดี สถานะเงินสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง สามารถช่วยรองรับความไม่แน่นอนดังกล่าวได้ ทางด้านอุปสงค์  หากการเบิกจ่ายเงินลงทุนและการดำเนินโครงการลงทุนของรัฐล่าช้า รวมทั้งหากโครงการภายใต้ประเทศไทย 4.0 ไม่ขับเคลื่อน จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม

สำหรับสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยนั้น ตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ คือจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่สิ่งสำคัญที่มองเห็นคือความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายของไทย ซึ่งหากสะดุดก็อาจส่งผลกระทบต่ออัตราการเจริญเติบโตของประเทศ
         
แต่การที่รัฐบาลเน้นนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จะช่วยแก้ปัญหากับดักประเทศรายได้ปานกลาง  เพื่อนำประเทศไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง