จากสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจในการขายเครื่องปรับอากาศในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องปรับอากาศต้องรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากสภาพอากาศที่คาดว่าจะเริ่มเข้าสู่หน้าร้อนตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่สภาพอากาศกลับไม่ร้อนอย่างที่คาดการณ์ เพราะตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมาทั่วภูมิภาคของไทยกลับมีฝนตกเป็นระยะๆจนถึงต้นเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจยังไม่เอื้อต่อการทำตลาดเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากพืชผลทางการเกษตรยังมีราคาไม่สูงมากนัก จึงทำให้ผู้บริโภคในตลาดต่างจังหวัดยังไม่มีเงินที่จะจับจ่ายซื้อเครื่องปรับอากาศ ซึ่งจากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องปรับอากาศเริ่มออกมาคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้อาจจะยังอยู่ในภาวะทรงตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศติดลบไปแล้วประมาณ 10-20% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตได้ที่ประมาณ 5-10%
อย่างไรก็ดี หลังจากเม็ดเงินที่ภาครัฐอัดเข้าสู่ระบบผ่านโครงการต่างๆ เห็นผล ผู้ประกอบการในตลาดเครื่องปรับอากาศ จึงเริ่มมีความหวังว่ากำลังซื้อตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 เป็นต้นไปน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับขณะนี้สภาพอากาศเริ่มร้อนจัดผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องปรับอากาศ จึงเริ่มมีความหวังว่าจะมียอดขายเครื่องปรับอากาศในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงกว่า 1 เดือนที่เหลือของหน้าขายสินค้า
ทั้งนี้ จากระยะเวลาของหน้าขายที่เหลือเพียงกว่า 1 เดือนเท่านั้น ทำให้มีการคาดการณ์ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวการแข่งขันของธุรกิจเครื่องปรับอากาศจะมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากแต่ละค่ายมียอดขายที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไปเรียบร้อยแล้วในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา และเพื่อให้มียอดขายใกล้เคียงกับเป้าหมายหรือเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องปรับอากาศแต่ละค่ายจึงออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างคึกคัก
นายธันยวัฒน์ จิตติพลังศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องปรับอากาศซัยโจเด็นกิ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ทำการเปิดตัวสินค้าใหม่รุ่น อินเวอร์เตอร์ ชัวร์ เข้าทำตลาดด้วยกัน 3 รุ่น ด้วยการชูจุดเด่นของสินค้าใหม่ในด้านของการประหยัดพลังงาน เพื่อช่วยผู้บริโภคประหยัดค่าไฟไปได้ถึง 50% มีระบบฟอกอากาศเทอร์โบ เอพีเอส และรับประกันคอมเพรสเซอร์พร้อมอุปกรณ์ทุกชิ้นนาน 5 ปีเต็ม
ขณะเดียวกัน ยังจะให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย และให้ความมั่นใจในสินค้าด้วยบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในส่วนของแผนการทำตลาดในประเทจะเน้นไปที่การขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างจังหวัด ขณะที่ตลาดต่างประเทศจะเน้นการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่ม โดยในส่วนของปีนี้มีแผนที่จะส่งออกสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศอิตาลีและเยอรมัน
หลังจากออกมาขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซัยโจเด็นกิ คาดว่าสิ้นปี 2560 นี้จะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-20% อย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่สูงเท่ากับปี 2559 ที่ผ่านมา ซึ่ง ซัยโจเด็นกิ สามารถสร้างยอดขายได้เติบโสูงถึง 60-70% หรือมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,100 ล้านบาท สูงกว่าปี 2558 ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,300 ล้านบาท เท่านั้น เนื่องจากมีการเปิดตัวสินค้าใหม่และขยายช่องทางการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์(ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศในระบบอินเวอร์เตอร์เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมอีกประมาณ 3 ซีรีส์ ซีรีส์ละ 4 รุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หลังจากปลายปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดแล้วจำนวน 2 ซีรีส์
พร้อมกันนี้ ยังได้ใช้งบประมาณอีก 300 ล้านบาท ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งหลังจากเดินหน้าทำการตลาดเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปี 2560 นี้จะมียอดขายเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์อยู่ที่ 1.5 แสนเครื่อง หรือมียอดขายอยู่ที่ 3,200 ล้านบาท
นายได นิชิ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์(ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดจำนวน 6 รุ่น แบ่งเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ 4 รุ่น และนอนอินเวอร์เตอร์อีก 2 รุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า และกระตุ้นยอดขายในช่วงหน้าร้อนนี้ และเพื่อให้สินค้ารุ่นใหม่เป็นที่รู้จักมากขึ้น บริษัทได้ใช้งบ 100 ล้านบาท ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศ พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ คือ นาย-นภัทร และแต๊ว-ณฐพร เพื่อสื่อสารสินค้าใหม่ไปถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย
ทั้งนี้ ภายหลังจากเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด พานาโซนิค คาดว่าจบรอบบัญชีปี 2560 ในเดือนมี.ค.2561 น่าจะมียอดขายเครื่องปรับอากาศอยู่ที่ 3.5 แสนเครื่อง หรือมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 5,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 3 แสนเครื่อง หรือมียอดขายอยู่ที่ 4,800 ล้านบาท ซึ่งจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดจาก 18% เพิ่มเป็น 20% ได้อย่างแน่นอน
ด้าน นายณรัณ ศิริสันธนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิแอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศภายใต้แบรนด์ ยูนิแอร์ กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทจะหันมาขยายธุรกิจในตลาดเออีซีมากขึ้น เนื่องจากยังมีโอกาสให้เข้าไปทำตลาดได้อีกมาก ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งในกลุ่มเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ และเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กเข้าทำตลาดมากขึ้น โดยหลังจากบริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปี 2560 น่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีรายได้ทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น ตลาดในประเทศ 75% และตลาดต่างประเทศอีก 25 %
จากสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจต่อการทำตลาดมากนัก จะเห็นได้ว่า ปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งปีที่กลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศยังคงแข่งขันในด้านของราคา ควบคู่ไปกับการทำโปรโมชั่นผ่อน 0% กันค่อนข้างรุนแรง และในเดือน พ.ค.นี้คาดว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเป็นเดือนสุดท้ายของการทำตลาดในช่วงหน้าขายสินค้า
ข่าวเด่น