การตลาด
สกู๊ป "น้ำเกลือแร่"คึก "ทิปโก้-เกเตอเรด" เปิดศึกชิงแชร์สปอนเซอร์


จากแนวโน้มของผู้บริโภคชาวไทยที่หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มสปอร์ตดริ้งค์ หรือที่รู้จักกันดีในนามของตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ มีการขยายตัวในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่มีอัตราการเติบโตสูง 10-15% ต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่มีมูลค่าสูงถึง 6,000 ล้านบาท และจากมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีดังกล่าว ทำให้ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างคึกคัก

 

สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่มีความคึกคัก เห็นได้จากผู้เล่นทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่ออกมาเปิดกลยุทธ์การทำตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่อย่างต่อเนื่อง รายล่าสุดที่ออกมาเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่เข้าทำตลาด คือ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)  หรือที่รู้จักกันดีในนามของผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้ทิปโก้ที่ออกมาเปิดตัว "ทิปโก้ เวฟ" (Tipco WAVE) เครื่องดื่มเกลือแร่น้องใหม่จำนวน 2 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินอล และออเร้จน์ เข้าทำตลาด เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดผู้นำตลาดอย่างสปอนเซอร์

นายกิตติเชษฐ์ สถิตย์นพชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดตัวทิปโก้ เวฟ เข้ามาทำตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทที่เปิดตัวสินค้าใหม่ ซึ่งไม่ใช่น้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์ทิปโก้เข้ามาทำตลาด เนื่องจากบริษัทต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ด้วยการเติมเต็มสินค้าในพอร์ตโฟลิโอด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด

ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้แบรนด์ทิปโก้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในด้านของการทำตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มและตลาดผลไม้กระป๋อง และเพื่อให้แบรนด์สินค้าทิปโก้ เวฟ ประสบความสำเร็จตามรอยเครื่องดื่มน้ำผลไม้ทิปโก้ บริษัท ทิปโก้ ฟู้ดส์ฯ จึงได้มีการสร้างจุดขายให้กับเครื่องดื่มทิปโก้ เวฟ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่

จุดแข็งที่ทิปโก้ เวฟ พยายามสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด คือ การหาช่องว่างของตลาด ซึ่งนั่นก็คือ เครื่องดื่มเกลือแร่ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีผู้เล่นเข้ามาทำตลาดเครื่องดื่มเกลือในตลาดดังกล่าว ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภครุ่นใหม่มีความต้องการสินค้าที่เป็นธรรมชาติ และมีความแปลกใหม่ บริษัท ทิปโก้ ฟู้ดส์ฯ เลยเล็งเห็นโอกาส  ด้วยการเปิดตัวทิปโก้ เวฟ เข้ามาเปิดศึกในทำตลาดเครื่องดื่มเหลือแร่

สำหรับจุดต่างของเครื่องดื่มทิปโก้ เวฟ คือ การวางโพซิชั่นนิ่งของสินค้าไปท่าเครื่องดื่มเกลือแร่ที่เต็มไปด้วยแร่ธาติธรรมชาติ โดยเบื้องต้นผลิตสินค้าเข้ามาทำตลาดจำนวน 2 รสชาติ คือ รสออริจินอล และ รสออเร้จน์ ซึ่งในส่วนของบช่องทางการจำหน่ายได้วางสินค้าไว้ที่ร้านสะดวกซื้อ และสถานที่ออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนส สนามกีฬา และสวนสาธารณะ เนื่องจากกลุ่มหมายหลักจะเป็นกลุ่มที่รักสุขภาพ และชอบออกกำลังกายอายุ 20-50 ปี

ในด้านของกลยุทธ์การทำตลาด บริษัท ทิปโก้ ฟู้ดส์ ได้ใช้เงินกว่า 80 ล้านบาท ในการทำกิจกรรมการตลาดแบบ 360 องศา โดยในส่วนของช่องทางอะเบิฟ เดอะ ไลน์ จะเน้นสื่อหลักเป็นภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ และ Online Film ขณะที่ช่องทางบีโลว์ เดอะ ไลน์ จะเน้นไปที่การจัดโรดโชว์  แจกสินค้าตัวอย่าง และการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) รวมไปถึงการส่งเสริมและสนับสนุนด้านกีฬาทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น นักวิ่ง นักปั่น และฟิตเนส เป็นต้น

นายกิตติเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังจากเปิดตัวทิปโก้ เวฟ เข้าทำตลาด บริษัทมีแผนที่จะผลักดันให้ทิปโก้ เวฟ มีส่วนแบ่งตลาด 15-20 % ในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ กลุ่มโมเดิร์นในปีแรก และก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่จากธรรมชาติภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ ด้วยการมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 30-40%

 

ด้าน "แบรนด์เกเตอเรด" ก็หวนกลับมาทำตลาดเชิงรุกอีกครั้งเมื่อต้นปี 2560 ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นแนวโน้มที่ดีของตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง ด้วยการปรับโครงสร้างการทำตลาดใหม่ คือ หันมาทำตลาดด้วยตัวเองตั้งแต่การเป็นผู้ผลิต ด้วยการสร้างโรงงานผลิตสินค้าที่ จ.ระยอง ตามด้วยการขนส่งสินค้า และการจัดจำหน่ายสินค้าด้วยตัวเอง โดยการใช้เครือข่ายของเป๊ปซี่ในไทยเป็นช่องทางในการทำตลาด  

นายสมชัย เกตุชัยโกศล
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเกลือแร่ เกเตอเรด กล่าวว่า แนวทางการทำตลาดในปีนี้ บริษัทเตรียมงบการตลาดรวม 80 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่เกเตอเรดต่อเนื่องตลอดทั้งปี เริ่มต้นด้วยการปรับโฉมของเครื่องดื่มเกเตอเรดใหม่ทั้งหมด เริ่มจากแพกเกจจิ้ง โดยมีนักกีฬาดังระดับโลกเป็นตัวแทนของสินค้าใน 3 รสชาติ ประกอบด้วย กลิ่นบลูบลาส มีโปรเม-เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟหญิงอันดับสองของโลกของไทย, กลิ่นมะนาวมี ลีโอเนล เมซสี นักฟุตบอลดัง และกลิ่นองุ่นมีเซเรน่า วิลเลียมส์ นักเทนนิสระดับโลกเป็นตัวแทนของรสชาติ

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะสร้างทัศนคติผู้บริโภคให้หันมาดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่มากขึ้น หลังจากการออกกำลังกายเสร็จแล้ว ด้วยการแจกสินค้าทดลองชิมประมาณ 1 ล้านขวด ให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมสินค้า ขณะเดียวกันก็จะมีการวางแผนใช้สื่อโฆษณาในจุดที่เป็นคอนซูเมอร์ทัชพ้อยท์ ทั้ง สนามกีฬา สนามฟุตบอล สนามกอล์ฟ สนามแบดมินตัน และฟิตเนส เบื้องต้นใช้สื่อออนไลน์ทำการตลาด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพราะจากการศึกษาตลาด พบว่า คนไทยกว่า 37% ชอบออกกำลังกาย และกลุ่ม Gen-Z  เป็นกลุ่มที่มีการออกกำลังกายมากที่สุด ด้วยสัดส่วน 57% รองลงมา คือ Gen-Y มีสัดส่วนประมาณ 40%

จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นดังกล่าว เกเตอเรด จึงมีแผนที่จะเดินหน้าผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรในการสนับสนุนวิ่งมาราธอนชั้นนำ เช่น จอมบึงมาราธอน,ภูเก็ตมาราธอน และริเวอร์แคว์ฮาล์ฟมาราธอน เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก โดยในปีนี้ บริษัท เป็ปซี่ฯ วางเป้าหมายที่จะผลักดันเกเตอเรด ให้ติดท็อปไฟว์ในไทยให้ได้ และปีหน้าจะผลักดันให้ติดท็อปทรี จากปัจจุบันยังมียอดขายค่อนข้างน้อย พร้อมกันนี้ผู้นำตลาดอย่างสปอนเซอร์ยังมีความแข็งแกร่งมาก โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80%      

 

ปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ มีสินค้าเข้าทำตลาดด้วยกัน  2 กลุ่มหลัก คือ 1.กลุ่มคลาสสิก คือ สินค้าที่บรรจุขวดแก้ว ขนาดเล็ก เน้นเกลือแร่ราคาไม่เกิน 15 บาท มีสัดส่วน 85% และ 2.กลุ่มโมเดิร์น คือ กลุ่มที่ได้รับความสนใจจากผู้เล่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นสินค้าที่บรรจุขวด PET ขนาดใหญ่ ราคามากกว่า 15 บาท มีสัดส่วน 15% ซึ่งในส่วนของตลาดคลาสสิค ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงมากที่สุด เนื่องจากราคาสินค้าไม่แพง ทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ง่าย


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 พ.ค. 2560 เวลา : 13:44:20
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 11:18 am