นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนตราสารหนี้ในระยะต่อจากนี้อาจเริ่มต้องเผชิญกับความผันผวน เพราะหลังการประชุมเฟดและตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ เดือนเมษายนยังออกมาดีต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบสุดท้ายของฝรั่งเศสที่ผลออกมาว่านายมาครองเป็นผู้ชนะ ทำให้ความกังวลต่อปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองลดน้อยลง และคาดว่าเฟดอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้
ดังนั้น บลจ.ธนชาต จึงคาดว่าผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yields) ระยะกลาง-ยาวของไทยมีแนวโน้มที่จะทรงตัวอยู่ในระดับสูง ประกอบกับการขยายเวลาการลดปริมาณการออกพันธบัตรอายุ 3 และ 6 เดือนของธนาคารแห่งประเทศไทย ออกไปอีก 1 เดือน ช่วยให้ Bond Yields ระยะสั้นทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อไป
ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 8,099 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps มาอยู่ที่ 1.57% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 1 bps มาอยู่ที่ 2.16% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 bps มาอยู่ที่ 2.79% ต่อปี
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้อาจมองได้ว่า ควรระมัดระวังในการเข้าลงทุนตลาดตราสารหนี้ เพราะแนวโน้มจะผันผวนมากขึ้น ดังนั้นสำหรับผู้ที่เป็นนักลงทุนระยะยาว หรือไม่ต้องการรับความเสี่ยงใดๆ อีก บลจ.ธนชาต ขอแนะนำกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 6M6 (T-FixFIF6M6) กองทุนตราสารหนี้ 6 เดือน ที่ปัจจุบันยังให้ผลตอบแทนสุทธิสูงกว่าเงินฝากทั่วไป
กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 6M6 (T-FixFIF6M6) อายุประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ผลตอบแทนประมาณ 1.525% ต่อปี เปิดขายระหว่างวันที่ 9 – 15 พฤษภาคม 2560
ข่าวเด่น