การแพร่ระบาดของไวรัส”วอนนาคราย” (WannaCry) ส่งผลกระทบไปทั่วโลกไม่เว้นแต่ประเทศไทย ซึ่งนางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) หรือ สพธอ. ในฐานะผู้รับผิดชอบศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของมัลแวร์ วอนนาคราย ในประเทศไทยว่า ขณะนี้พบว่ามีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน 200 เครื่องที่ได้รับการคุกคามโดยมัลแวร์ วอนนาคราย ซึ่งไทยเซิร์ตได้แนะนำการแก้ไขและดำเนินการไปหมดแล้ว เบื้องต้นยังไม่มีหน่วยงานไหนที่ยอมเสียเงินค่าไถ่ตามที่มีการเรียกร้อง แต่ก็ยังไม่สามารถไว้วางใจได้
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแพร่กระจายของมัลแวร์วอนนาคราย ว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้มีการชี้แจง และมีมาตรการมาให้ทราบแล้ว ซึ่งตนเอง และหน่วยงานความมั่นคง ได้รับมาเพื่อไปดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ และได้สั่งการให้มีความระมัดระวัง และปฏิบัติตามมาตรการตามที่ได้มีการแจ้งมา
อย่างไรก็ตาม มีการรายงานมาว่ามีบริษัทใหญ่ 2-3 ราย โดนไวรัสเล่นงาน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ ในส่วนของราชการนั้นยังไม่มีการรายงานเข้ามา ซึ่งถือว่ายังไม่มีหน่วยงานใดถูกเล่นงานจากไวรัสดังกล่าว สิ่งสำคัญเราต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะการเรียกร้องให้เปิดเสรีทุกอย่างในวันนี้ที่จะเป็นอันตรายในวันข้างหน้า
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบของสำนักงาน กสทช. ขณะนี้ ยังไม่มีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และผู้ให้บริการวงจรสื่อสารระหว่างประเทศ (IIG) ในประเทศไทยรายใดที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของมัลแวร์เหมือนในบางประเทศที่มัลแวร์นี้เข้าไปในระบบ ทำให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมไม่สามารถคิดค่าบริการ และให้บริการได้ แต่เพื่อเป็นการป้องกัน สำนักงาน กสทช. จึงได้สั่งกำชับไปยังผู้ให้บริการทุกราย ให้ตรวจสอบระบบเครือข่ายสารสนเทศ และเตรียมการป้องกันการคุกคามจากจากมัลแวร์ WannaCry ไม่ให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น การให้บริการ การคิดค่าโทรศัพท์ ค่าบริการ บริการคลาวด์ เซอร์วิสต่าง ๆ ที่ให้บริการกับผู้ใช้งาน พร้อมทั้งขอให้ผู้ให้บริการทุกรายเตรียม Call Center เพื่อให้ข้อมูลการป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์ WannaCry ให้กับผู้ใช้บริการด้วย
ส่วนความเคลื่อนไหวในต่างประเทศ นายร็อบ เวนไรท์ ผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจยุโรป (ยูโรโพล) เปิดเผยว่าผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีคอมพิวเตอร์โดยโปรแกรมเรียกค่าไถ่ที่ชื่อว่า WannaCry ขณะนี้มีจำนวนมากกว่า 200,000 ราย ใน 150 ประเทศ และคาดว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
โดยผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากเป็นธุรกิจ ซึ่งรวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ และคาดว่าจำนวนผู้ได้รับผลกระทบจะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อบริษัทต่างๆ เปิดทำงานในเช้าวันจันทร์ พร้อมกับเตือนว่า แม้ภาคบริการสุขภาพในหลายประเทศมีความเสี่ยงเป็นพิเศษที่จะได้รับผลกระทบจากไวรัสเรียกค่าไถ่ดังกล่าว แต่ทุกองค์กรก็ควรให้ความสำคัญกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และอัปเดตระบบ
ทั้งนี้ รัสเซียและอังกฤษเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยคณะกรรมการรับมือเหตุฉุกเฉิน หรือคอบรา ของอังกฤษ ได้ประชุมร่วมกันในช่วงบ่ายวันเสาร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีดังกล่าวที่สร้างความเสียหายต่อสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (NHS) โดยทาง NHS แถลงว่า ทางสำนักงานได้ถูกแฮกเกอร์โจมตีด้วยแรนซัมแวร์ และการโจมตีครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วอังกฤษ
ข่าวเด่น