แม้ว่ากำลังซิ้อของผู้บริโภคจะชะลอตัว ส่งให้ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกโตช้าลง แต่สำหรับธุรฏิจร้านสะดวกซื้อหรือคอนวีเนียนสโตร์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดไม่ว่าจะเป็นด้านของการขยายสาขา หรือบริการ แต่ที่เห็นจะแข่งขันกันรุนแรงที่สุดก็น่าจะเป็นในด้านของการบริการ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคต้องการความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้นสินค้า บริการ จึงต้องสะดวกและตรงกับความต้องการของลูกค้า

ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อจึงต้องพยายามหาบริการใหม่ๆ มาเอาใจลูกค้า โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าพร้อมรับประทาน  จะเห็นได้ว่าปัจจุบันร้านสะดวกซื้อแต่ละแบรนด์ต่างชูจุดแข็งในเรื่องนี้เป็นหลัก เนื่องจากอาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีพของมนุษย์เรา และยิ่งวีถีชีวิตในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ จึงทำให้กลุ่มสินค้าอาหารพร้อมรับประทานได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่เป็นอย่างดี

นอกจากนี้  การที่ผู้เล่นรายใหญ่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก เนื่องจากมีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั่วประเทศมากกว่าผู้เล่นรายเล็ก การหันมาให้ความสนใจในด้านของสินค้า และบริการ จึงถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก สำหรับการแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด เพราะหากแข่งในด้านของจำนวนสาขาถือว่าไม่มีความเป็นไปได้เลย เนื่องจากผู้เล่นรายใหญ่อย่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่นปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการมากกว่า 9,800 สาขา ขณะที่ผู้เล่นรายเล็กอย่างร้านแฟมิลี่มาร์ทมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการในปัจจุบันเพียงกว่า 1,100 สาขา  และร้านลอว์สัน 108 มีจำนวนสาขาเปิดให้บริการในปัจจุบันเพียง 90 สาขาเท่านั้น การหันมาชูจุดแข็งของร้านในด้านของสินค้าและบริการ จึงมีความสำคัญมากกว่าการขยายสาขา  ที่คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะตามเจ้าตลาดทัน  

นายเวทิต โชควัฒนา  กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านลอวสัน 108 กล่าวว่า  การแข่งขันของธุรกิจร้านสะดวกซื้อในปีนี้ยังคงมีการแข่งขันกันรุนแรง  เนื่องจากประเทศไทยยังมีโอกาสให้เข้าไปขยายสาขาได้อีกมาก  เพราะจำนวนสาขาร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการในประเทศไทยยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่น  แต่การที่ประเทศไทยมีรายใหญ่ที่ขยายสาขาเป็นจำนวนมาก  ส่งผลให้รายเล็กไม่สามารถเข้าไปแข่งขันในด้านของการขยายสาขาได้  เพราะขยายสาขาเท่าไหร่ก็ตามไม่ทัน 

ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการรายเล็กในตลาดจะทำได้  เพื่อสู้กับรายใหญ่ในตลาด คือ การหาตัวตนร้านสะดวกซื้อของตัวเองให้เจอ ซึ่งในส่วนของร้านลอว์สัน 108 ก็จะชูจุดเด่นในด้านของการบริการอาหารพร้อมรับประทานที่มีความหลากหลายทั้งในรูปแบบอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่น  เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ  

นายเวทิต กล่าวอีกว่า ร้านลอว์สัน 108 เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่สินค้าออริจินัลสไตล์ญี่ปุ่นที่ปรุงสดใหม่ภายในร้าน เช่น โอเด้ง  เบนโตะ และของทอด นอกจากนี้   บริษัทยังมีแผนที่จะขยายสาขาร้านลอว์สัน 108 อย่างต่อเนื่อง  โดยในส่วนของปีนี้มีแผนที่จะขยายเพิ่มอีกประมาณ 50 สาขา 

นอกจากจะให้ความสำคัญในด้านของสินค้าและบริการที่รับชำระผ่านบัตรเครดิตแบบไม่มีขั้นต่ำแล้ว  ยังจะให้ความสำคัญในด้านของการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย  ยิ่งช่วงนี้แนวโน้มกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว ร้านลอว์สัน 108 เลยต้องมีการออกมาทำโปรโมชั่นผ่านแคมเปญ เจแปน ลัคกี้ ลุ้นทุกวัน ทุกสาขา เพื่อลุ้นรางวัลคุมะมงกว่า 1 แสนชิ้น  และรางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับ พร้อมแพ็คเกจทัวร์สู่จังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 20 รางวัล  เพื่อกระตุ้นยอดขายให้มีความคึกคักมากขึ้น

ด้านร้านแฟมิลี่มาร์ท ก็มีการชูจุดขายในด้านของการพัฒนาอาหารพร้อมทาน  ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าชั้นนำ พัฒนาอาหารให้มีความหลากหลาย เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด  โดยพยายามนำเสนอสินค้าที่แปลกใหม่และมีจุดเด่นเฉพาะ  เพื่อเน้นย้ำความเป็นร้านสะดวกซื้อโดยให้บริการครอบคลุมความต้องการของลูกค้า ด้วยการ เปิดบริการชำระค่าบริการ เติมเงินและความบันเทิงออนไลน์ ในทุกรูปแบบ ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น  เครดิตการ์ด , Rabbit card  และ Alipay ให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

นอกจากนี้  ยังมีบริการความบันเทิงในรูปแบบใหม่ ๆ  เช่น  การจำหน่ายบัตรกิฟท์การ์ด (Gift Card) Joox  ,Line prepaid card ,Hollywood HDTV , บริการส่งพัสดุด้วย Kerry Express และ บริการเดลิเวอรี่ โดย “โก มาร์ท” (Go Mart) จาก GoBike ครอบคลุมในเขตสาทร สีลม และสุรวงศ์

นางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า   ในฐานะที่แฟมิลี่มาร์ทเป็นบริษัทหนึ่งในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป เพื่อเป็นการตอกย้ำพันธะสัญญาของเซ็นทรัล กรุ๊ป ในการผนวกนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อมอบความสะดวกสบาย รวดเร็ว พร้อมด้วยสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่เป็นเอกลักษณ์  บริษัทจึงมีแผนที่จะปรับภาพลักษณ์ร้านในรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่  โดยเริ่มที่สาขาฮอลิเดย์อินน์ สีลม เป็นสาขาแรก

พร้อมกันนี้  ยังจะให้ความสำคัญในเรื่องของการขยายสาขา  ด้วยการโฟกัสสาขาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล หัวเมืองสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยว โดยทำเลที่ให้ความสนใจเข้าไปขยายสาขา คือ  โรงพยาบาล คอนโดมิเนียม ออฟฟิศสำนักงานและปั๊มน้ำมัน เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในทุก ๆ พื้นที่

ขณะที่รายเล็กอยู่ระหว่างการจัดทัพสู้  เจ้าตลาดอย่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนข้อให้กับผู้เล่นรายเล็ก  โดยยังคงเดินหน้าขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 500-600 สาขา  พร้อมกับเพิ่มสินค้าและบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง  เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดร้านสะดวกซื้อ.