หลัง 4 ชาติตะวันออกกลางได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกาตาร์ ที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนการก่อการร้าย พร้อมประกาศปิดชายแดนทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ทำให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายหนัก
ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ของสถานทูตว่า ขอให้คนไทยในกาตาร์อย่า ตื่นตระหนก แต่คอยติดตามข่าวสารอย่าง ใกล้ชิด หากมีพัฒนาการใดๆ ที่มีนัยสำคัญต่อการใช้ชีวิตของคนไทยในกาตาร์ จะแจ้งให้ทราบผ่านทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และกลุ่มไลน์ของสถานเอกอัครราชทูต
ขณะที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลถึงภูมิภาคอื่นและอาเซียน เพราะกำลังจะมีการประชุมอาเซียนและกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (จีซีซี) ปลายปีนี้ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นอาจทำให้การประชุมดังกล่าวไม่เกิดขึ้น ไทยและอาเซียนจึงหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
ส่วนด้านการค้านางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า เบื้องต้นจะกระทบกับการส่งออกของไทยโดยตรงในสินค้าที่อยู่ระหว่างส่งไปกาตาร์ โดยเฉพาะที่ส่งทางเรือ เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ยานยนต์ และที่ส่งทางเครื่องบิน เช่น ผักผลไม้ อัณมณี ขณะนี้กำลังติดตามสินค้าที่จะไปลงกาตาร์นั้น จะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด ส่วนเรื่องราคาน้ำมันขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อไทย แต่ก็มีความกังวลกันว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจเพิ่มขึ้นจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า หากเหตุการณ์ดังกล่าวยืดเยื้อออกไปอีก ก็จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมส่งออกไทย ซึ่งเป็นผลจากความผันผวนราคาน้ำมันในตลาดโลก และสินค้าอุตสาหกรรมหลักๆ ที่ส่งออกไปตะวันออกกลาง คือ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็นและอาหาร ปีที่แล้วคิดเป็นสัดส่วนรวมกันกว่า 35% ของที่ส่งออกทั้งหมดไปตลาดตะวันออกกลาง หากมีปัญหาด้านการขนส่งสินค้า ก็จะมีผลต่อการส่งออกของไทยในกลุ่มสินค้าดังกล่าวด้วย เฉพาะในส่วนกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) 6 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และบาห์เรน นั้น มีการส่งออกกดลุ่มรถยนต์มีสัดส่วน 23.3 % ของที่ส่งออกทั้งหมดกลุ่มนี้ หรือมีมูลค่า 406 เหรียญสหรัฐ และเครื่องปรับอากาศ มีมูลค่า 217 ล้านเหรียญสหรัฐ
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวว่า แต่สถานการณ์นี้ยังมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น ในสินค้าอาหาร ผัก และผลไม้ หากผู้ส่งออกสามารถส่งตรงไปกาตาร์ได้ เพราะกาตาร์จำเป็นต้องนำเข้าสินค้าอาหารจากประเทศเพื่อนบ้านถึง 40 % ซึ่งปัจจุบันไทยส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งและอาหารกระป๋อง ไปเป็นส่วนใหญ่ ส่วนความขัดแย้งครั้งนี้ เป็นลักษณะการตั้งความสัมพันธ์ ยังไม่ถึงขั้นการคว่ำบาตร
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาไทยส่งออกตรงไปยังกาตาร์มูลค่าประมาณ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการค้าระหว่างไทยกับกาตาร์นั้น ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งสินค้าตรงไปยังกาตาร์ มูลค่า 102.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 21.43% โดยสินค้าส่งออก 5 อันดับแรก ประกอบด้วย อัญมณี มูลค่า 27.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ, รถยนต์ 24.8 ล้านเหรียญ, เครื่องปรับอากาศ 16.2 ล้านเหรียญ, อาหารทะเลกระป๋อง มูลค่า 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และตู้เย็น 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ข่าวเด่น