หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวดีกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่อย่างเครือสหพัฒน์หวนกลับเข้าสู่สมรภูมิการลงทุนครั้งใหญ่อีกครั้ง หลังจากชะลอการลงทุนใหญ่ไป 2 ปีเต็ม เนื่องจากยังไม่มีความมั่นใจในเศรษฐกิจภายในประเทศ สำหรับเม็ดเงินที่จะใช้ในการลงทุนใหญ่ในครึ่งปีหลังของปี 2560 นี้ เครือสหพัฒน์ได้เตรียมไว้คร่าวๆ ประมาณ 3,000 ล้านบาท หากการเจรจาธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังเป็นไปด้วยดีก็อาจจะมีการระดมงบลงทุนเพิ่ม เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้ว่าตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา จะมีปัจจัยลบครั้งใหญ่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ แต่หากนำมาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนแล้ว ไทยถือว่ามีศักยภาพมากที่สุด
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยตอนนี้แม้จะชะลอตัวไปบ้าง แต่ก็ถือว่าดีกว่าหลายๆ ประเทศไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์ ซึ่งขณะนี้ต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวอย่างหนัก จากเหตุการณ์ดังกล่าวประเทศไทยถือว่าดีกว่ามาก แม้ว่าขณะนี้แนวโน้มเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว แต่ก็มั่นใจว่านับตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีนี้ไปจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทจึงมีแผนที่จะกลับมาลงทุนใหญ่ โดยเบื้องต้นได้เตรียมงบประมาณไว้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทในการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตกลุ่มสินค้าถุงลมนิรภัย และสร้างคลังสินค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่ 50 ไร่ ในย่านสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุนสร้างคลังสินค้าจะเป็นการเซ็นสัญญาร่วมทุนกับพันธมิตรใหม่อย่างบริษัท ไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ PALTAC Corporation บริษัทชั้นนำด้านขายส่งและโลจิสติกส์ของประเทศญี่ปุ่น ร่วมเซ็นสัญญาความร่วมมือโครงการไทเกอร์ สุวรรณภูมิ ดีซี ซึ่งถือเป็นคลังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของเครือสหพัฒน์ เนื่องจากมีพื้นที่เก็บสินค้ามากถึง 70,000 ตร.ม. พร้อมกันนี้ ยังช่วยพัฒนาระบบการจัดการ Total Supply Chain ของเครือสหพัฒน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เครือสหพัฒน์ยังได้มีการเพิ่มทุนจำนวน 4,000 ล้านบาทในบริษัท สหพัฒอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) เพื่อระดมทุนนำเม็ดเงินที่ได้มาลงทุนขยายธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะในการลงทุนในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และการลงทุนขยายธุรกิจที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่ภาครัฐกำลังให้สนับสนุน
อย่างไรก็ดี นอกจากจะให้ความสำคัญกับการลงทุนขยายธุรกิจในเครือแล้ว ยังให้ความสำคัญหลังบ้านด้วยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมการก้าวสู่ยุค 4.0 ซึ่งจากแนวทางการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ปีนี้ธุรกิจในเครือสหพัฒน์จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อความคล่องตัวมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการ หรือการขาย ซึ่งปีนี้จะมีการจับร่วมกับพันธมิตร ด้านอีคอมเมิร์ซ ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
นายบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหมที่นิยมซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์และทีวีช้อปปิ้ง ดังนั้นเครือสหพัฒน์จึงได้มีการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในเว็บไซต์ eThailandbest ทีวีช้อปปิ้ง Shop Global และ Shop Channel มากขึ้น
นอกจากนี้ ภายในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิ.ย.-2 ก.ค. ยังจะมีการเปิดตัวการจำหน่ายสินค้ากับพันธมิตรใหม่ คือ Lazada และ O Shopping ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกมากขึ้น พร้อมกันนี้ ในส่วนของ Sun108 Vending ก็ยังจะมีการเปิดตัวบริการชำระเงินผ่านทาง Alipay และเปิดตัว ICC App แอพพลิเคชั่นบนมือถือสำหรับเผยแพร่ข่าวสาร กิจกรรม และโปรโมชั่นต่างๆ ภายในงานสหกรุ๊ปแฟร์อีกด้วย
ขณะที่บริการมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ในส่วนของสินค้าที่จะผลิตเข้ามาทำตลาดนับจากนี้ เครือสหพัฒน์ก็ได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการผลิตสินค้าอีกด้วย เพื่อให้สินค้าที่ผลิตเข้ามาทำตลาดเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น แบรนด์แอร์โรว์ นำเสนอนวัตกรรมเนื้อผ้าที่ตรงใจผู้สวมใส่ด้วย Flex Shirt เสื้อเชิ้ตที่กระชับเข้ารูปทรง แต่ให้ความยืดหยุ่นในทุกอิริยาบถของการเคลื่อนไหว และ Fresh Shirt นวัตกรรมล่าสุดของเสื้อเชิ้ตกับเนื้อผ้าที่มีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ยับยั้งป้องกันรังสี UV แห้งตัวและระบายความชื้นได้ดี
ส่วน กี ลาโรช เพิ่มความหรูหราด้วยคอลเลกชั่น Business Luxury โดยแบ่งเป็นส่วนของ Luxury Lace ที่นอกจากความละเอียดจากการตัดเย็บแบบพิถีพิถัน ยังเสริมด้วยลูกไม้ทอลายเฉพาะจากฝรั่งเศส ดูหรูหรามีระดับ เนื้อผ้าเนียนนุ่มใส่สบายไม่ระคายผิว ไม่ร้อน ขณะที่ชุดว่ายน้ำ BSC ก็โชว์ คอลเลกชั่นพิเศษที่ออกแบบและผลิตมาพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี BSC โดยเฉพาะ เน้นดีไซน์แนวสปอร์ต รูปลักษณ์ทันสมัย มีความเป็นสากล สวมใส่สบาย กระชับคล่องตัว เหมาะกับกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย
ด้าน BSC Cosmetology ก็ฉลอง 20 ปีด้วยการนำเสนอคอนเซ็ปต์ BSC GLAMOR GOLD 24K นำทองคำแท้บริสุทธิ์มาเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางในคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมใหม่แป้ง BSC คุชชั่นสูตรเย็น ให้ลุคแมทท์ ปกป้องผิวพร้อมบำรุง คุมความมันนานถึง 12 ชั่วโมง ซึ่งจากแนวทางธุรกิจดังกล่าวเครือสหพัฒน์มั่นใจว่าจะมีรายได้สิ้นปีเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา และเติบโตกว่าจีดีพีของประเทศอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น