ภาพรวมตลาดกล้องในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวเหมือนกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังและชะลอการจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่ไม่จำเป็น ซึ่งกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดยังคงหนีไม่พ้นกลุ่มระดับกลางและล่าง เพราะถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดสำหรับวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้
จากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดกล้องต้องปรับแผนการดำเนินธุรกิจ ด้วยการหันมาพัฒนาสินค้าฟังก์ชั่นใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด เพื่อเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มระดับบน เนื่องจากกลุ่มนี้จะได้รับลกระทบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจน้อยกว่ากลุ่มผู้บริโภคในระดับกลางและล่าง จึงจะเห็นได้ว่ากลุ่มสินค้าใหม่ของกล้องถ่ายรูปที่เปิดตัวเข้ามาทำตลาดในปีนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี เนื่องจากหน้าขายสินค้าของกล้องถ่ายรูปจะอยู่ในไตรมาส 3 และ 4 จึงทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจกล้องยังมีความหวังว่าช่วงครึ่งปีหลังนี้น่าจะพอช่วยกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดกล้องถ่ายรูปกลับมาฟื้นตัว และมาอัตราการเติบโตเป็นบวกได้เมื่อจบสิ้นปี เนื่องจากสินค้าใหม่จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดในช่วงเดือน ต.ค. เพื่อรองรับกับเทศกาลท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มาหชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดกล้องในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาค่อนข้างอยู่ในภาวะทรงตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดรวมกล้องถ่ายรูปในปีนี้ยังคาดเดายากว่าสิ้นปีจะมีการเติบโตเท่าไหร่ เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจากผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้เจ้าของสินค้าต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น พร้อมกับเปิดตัวสินค้าเทคโนโลยีใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
ปัจจุบันตลาดรวมกล้องมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 4 แสนยูนิต แบ่งเป็นตลาดกล้องมิร์เรอร์เลส 70% คอมแพ็ค 20% และดีเอสแอลอาร์ 10% ซึ่งตลาดที่มีการเติบโตสูงถึง 30-40% คือ ตลาดกล้องมิร์เรอร์เลส ส่วนตลาดกล้องคอมแพ็คและดีเอสแอลอาร์มีการเติบโตทรงตัว
ปัจจัยที่ทำให้กล้องมิร์เรอร์เลสที่มีการเติบโตสูงกว่าตลาดอื่น ปัจจัยหลักเกิดจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น เช่น ความนิยมในการโพสภาพจากการเดินทางท่องเที่ยว กระแสการใช้ FacebookLiveและอื่นๆ ทำให้ตลาดกล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์เสริมเติบโตตามไปด้วย
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท บิ๊กคาเมร่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ควบคู่ไปกับการขยายสาขาของธุรกิจในเครือไม่ว่าจะเป็นในส่วนของร้านขายกล้องบิ๊ก คาเมร่า ร้านบิ๊กโมบาย หรือร้านจำหน่ยมือถือ และขยายร้านวันเดอร์ โฟโต้ ช็อป บาย บิ๊กคาเมร่า หรือศูนย์บริการพิมพ์ภาพ ซึ่งในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เตรียมจัดขึ้นในเร็วๆนี้ คือ การจัดงาน บิ๊ก คาเมร่า บิ๊กโปรเดย์ ครั้งที่11 (BIG CAMERA BIG PRO DAY 2017) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 16 ก.ค.นี้ ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ด้านนายชิตชัย เธียรกาญจนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท บิ๊ก คาเมร่าคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดงาน บิ๊ก คาเมร่า บิ๊กโปรเดย์ ครั้งที่ 11 ในครั้งนี้จะจัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “ProspectiveInspired”สะท้อนมุมมองการถ่ายภาพสไตล์ “โปร” ที่สร้างสรรค์ได้ด้วยแรงบันดาลใจให้กับนักถ่ายภาพ ภายในงานนอกจากจะมีกล้องรุ่นใหม่นำมาแสดงและจำหน่ายแล้ว ยังมีการทำโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นความสนใจให้กับลูกค้า ด้วยการมอบส่วนลดสูงสุด 50% และจัดโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือนกับสถาบันการเงินประเภทนอนแบงก์ เช่น เฟิร์สช้อยท์
จากสินค้าและบริการที่นำมาจัดภายนงานบริษัท บิ๊กคาเมร่า คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกว่า 8 แสนคนเหมือนกับทุกปีที่จัดงาน เนื่องจากมีการจัดบรรยากาศภายในงานเพื่อสร้างแรงกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี จึงทำให้แต่ละแบรนด์ประสบความสำเร็จจากการเข้าร่วมงานในทุกครั้ง ซึ่งในส่วนของผู้บริโภคเองนอกจากจะได้พบกับแบรนด์กล้องและอุปกรณ์ชั้นนำกว่า 34 แบรนด์แล้ว ภายในงานยังเป็นเสมือนมาร์เก็ตเพลสให้ผู้บริโภคได้ศึกษาและเปรียบเทียบคุณสมบัติได้ตามต้องการ และยังมีกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคและเทรนด์การถ่ายภาพที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคอีกด้วย
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายแล้ว ในด้านของการขยายสาขาธุรกิจในเครือปีนี้ก็ยังมีการขยายสาขาต่อเนื่อง โดยในส่วนของร้านบิ๊กคาเมร่า ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายกล้องดถ่านรูปและแอคเซสเซอรี่ปีนี้มีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 10 สาขาเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา จากปัจจุบันลมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการทั้งหมดประมาณ 222 สาขาทั่วประเทศ
ส่วนธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อร้านบิ๊กโมบาย นั้น ปีนี้มีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีกเช่นที่ประมาณ 18 สาขา จากปัจจันมีจำนวยร้านเปิดให้บริการทั่วประเทศแล้วประมาณ 32 สาขา เพื่อให้สิ้นปีมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการครบ 50 สาขา
ขณะที่ธุรกิจการพิมพ์ภาพ (Printing) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แบ่งออกเป็นรูปแบบร้านStand Aloneได้แก่ การเปิดร้านวันเดอร์ โฟโต้ ช็อป บาบ บิ๊ก คาเมร่า ศูนย์รวมบริการพิมพ์ภาพด้วยระบบที่ทันสมัยครบทุกโซลูชั่น เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนทำงาน ที่ชื่นชอบการพิมพ์ภาพและการตกแต่งภาพอย่างสร้างสรรค์ ขณะนี้เปิดให้บริการ 3สาขา และจะขยายเพิ่มเป็น 7สาขาในปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการพิมพ์ภาพในรูปแบบบริการการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าบริษัทฯ และอุตสาหกรรม ซึ่งในส่วนของบริการนี้จะเปิดให้บริการที่ร้าน บิ๊ก คาเมร่า ทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังมีธุรกิจ“AIS Shop by Partner”ผู้ให้บริการเครือข่ายและจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์เอไอเอส ที่บริหารงานโดย บิ๊ก คาเมร่า ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 2 สาขา
หลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องบริษัท บิ๊กคาเมร่า มั่นใจว่าสิ้นปี 2560 นี้จะมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 10-20% ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงหน้าขายสินค้า ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนี้มีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรกจึงน่าจะพารายได้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ไม่ยาก หากมี่ปัจจัยลบที่ยากเกินความสควบคุมและแก้ไขเข้ามาส่งผลกระทบเสียก่อน
ข่าวเด่น