สถานการณ์ราคายางพาราที่ตกต่ำในปัจจุบัน โดยราคาน้ำยางสดลดลงเหลือ 40 บาท/กิโลกรัม ได้ส่งผลกระทบต่อชาวสวนยางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ปัญหาดังกล่าวรัฐบาลก็ได้พยายามแก้ปัญหา โดย พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำถึงการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำในขณะนี้ว่า ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงตามวงจรของเศรษฐกิจและปัจจัยต่างๆของโลก เช่น อัตราดอกเบี้ย หรืออัตราแลกเปลี่ยนราคาน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร สถาบันเกษตรชาวสวนยาง และผู้ประกอบกิจการยางเป็นการเฉพาะ ทั้งการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรผู้รวบรวมยางพารา และผู้ประกอบการกิจการยาง เพื่อใช้รับซื้อน้ำยางสดจากเกษตรกรโดยตรง ช่วยแก้ไขปัญหาราคาน้ำยางที่ปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ยังขยายเวลาการชำระหนี้เงินกู้โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร และจัดทำโครงการมูลภัณฑ์กันชน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และมุ่งเน้นที่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น ตั้งกองทุนพัฒนายางพารา เพื่อให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับยางพาราทั้งระบบ ขณะเดียวกันขอให้เกษตรกรพิจารณาหันไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน โดยเฉพาะพืชที่สร้างรายได้ตลอดทั้งปีและมีรายได้ดีกว่า และเรียนรู้จากตัวอย่าง ของ Smart Farmerที่ประสบความสำเร็จแล้ว
ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ขณะนี้ได้ผ่านวิกฤตความผันผวนด้านราคายางอย่างรุนแรงไปแล้ว โดยการส่งออกและราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้การส่งออกยางพาราธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง ยางแผ่นรมควัน น้ำยางข้น และยางอื่น ๆ มีมูลค่า 2,834.06ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.55ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง เช่น ยางล้อรถยนต์ ถุงมือยาง มีมูลค่า 4,066ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.98 ซึ่งคาดว่าแนวโน้มจะยังคงขยายตัวได้ดีขึ้น เพราะความต้องการของตลาดต่างประเทศยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีก็ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และการยางแห่งประเทศไทยเร่งสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง และทำความเข้าใจแก่พี่น้องเกษตรกรให้ลดความกังวล พร้อมกำชับกระทรวงพาณิชย์ให้ใช้โอกาสนี้เร่งเจรจาจับคู่ธุรกิจการค้ายางและผลิตภัณฑ์ยาง และจัดคณะผู้แทนการค้ายางพาราออกไปเจรจาขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ในตลาดต่างประเทศ ควบคู่กับการใช้ยางภายในประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน ละตินอเมริกา บังคลาเทศ และอิหร่าน ซึ่งคาดว่า จะช่วยกระตุ้นราคายางภายในประเทศให้ปรับตัวสูงขึ้นได้
ด้าน นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) แถลงสถานการณ์ราคายางพาราโดยเชื่อว่า สัปดาห์หน้าราคายางจะปรับตัวดีขึ้น เมื่อมาตรการทั้งหมดเดินหน้าเต็มที่ ส่งผลกระตุ้นให้กลไกตลาดปรับตัวดีขึ้น ในส่วนราคาน้ำยางสด ลดต่ำลงตอนนี้ 40 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งในวันที่ 11 ก.ค. ที่กยท.หาดใหญ่ จ.สงขลา จะมีการเรียกสมาคมน้ำยางข้น ผู้ประกอบการ และเครือข่ายเกษตรกร มาพูดคุยให้เพิ่มจุดรับซื้อมากขึ้น หลังจากได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากรัฐบาลไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเข้าไปรับซื้อพยุงราคาไม่ให้ลดลงกว่านี้ โดยใช้ราคาฐานไม่ต่ำกว่า 40 บาท
ส่วน นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (รับเบอร์ซิตี้) จ.สงขลา ล่าสุดมีความคืบหน้าแล้วกว่าร้อยละ 55 ทั้งนี้ คาดว่าสามารถพร้อมให้ผู้ประกอบการเข้าใช้พื้นที่ได้ทั้งหมดปลายปีนี้ เร็วกว่ากำหนดเดิม และจะทำให้การใช้ยางพาราในพื้นที่ เพิ่มปริมาณขึ้นด้วย เชื่อสถานการณ์ราคายางพาราของไทยหลังจากนี้ จะมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น
ข่าวเด่น