บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2560 ร้อนแรงเกินความคาดหมาย หลังจากเปิดเกมรุกส่งเทคโนโลยีใหม่เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ลุยปล่อยรถรุ่นใหม่ลงตลาดถึง 4 รุ่น ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด โกยยอดขายรวมทุกรุ่นกว่า 24,000 คัน ยอดขายโต 13% ย้ำชัดลูกค้าเชื่อมั่นในเทคโนโลยีใหม่ SKYACTIV-Vehicle Dynamics ประกาศเดินหน้าปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ พร้อมก้าวขึ้นสู่พรีเมียมแบรนด์อย่างเต็มตัว เตรียมอุดช่องว่าง เสริมจุดแข็งด้วยการบริการหลังการขาย MAZDA ACTIV SERVICE รองรับการขยายตัวทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว พร้อมปรับเป้าการขายเพิ่มขึ้น คาดปีนี้เติบโตอีก 20% ด้วยยอดขายทะลุ 51,000 คัน
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของตลาดรถยนต์ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ตลาดรถยนต์กลับคึกคักมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ ค่ายต่างขยับขับเคลื่อนทั้งเปิดตัวรถรุ่นใหม่ จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นความต้องการ และเพื่อให้ลูกค้าได้จับจองเป็นเจ้าของรถได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น ดาวน์น้อย ดอกเบี้ยต่ำ บำรุงรักษาให้ฟรี เพิ่มทางเลือกและโอกาสในการเป็นเจ้าของรถที่ชอบให้กับลูกค้ามากขึ้นจนเกิดการแข่งขันที่ดุเดือด เข้มข้น ส่งผลให้ตลาดรถยนต์คึกคักต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงไตรมาสที่สองของปีนี้ อีกทั้งยังมองเห็นแนวโน้มของการขยับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะตลาดรถยนต์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมกราคม คาดว่ายอดขายรวมของตลาดจะเพิ่มขึ้นถึง 820,000 คัน สำหรับมาสด้าได้มีการปรับเป้าการขายเพิ่มอีก 1,000 คัน จาก 50,000 คัน เพิ่มเป็น 51,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 20%
จากกระแสตอบรับรถยนต์มาสด้าในเจนเนอเรชั่นใหม่ที่กำลังฮ็อตฮิตติดลมบน หลังจากผ่าน 6 เดือนแรก ส่งรถใหม่ลงตลาดถึง 4 รุ่น เพิ่มความร้อนระอุให้ตลาดรถยนต์ของไทย ส่งผลให้ยอดขายครึ่งปีแรกแรงไม่หยุดทะลุถึง 23,893 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 13% นำโดยรถยนต์นั่งซิตี้คาร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ มาสด้า2 ที่ขับเคลื่อนยอดขายสูงสุดถึง 14,284 คัน ตามมาด้วยรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 3,099 คัน, มาสด้า3 จำนวน 2,677 คัน, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 2,219 คัน, มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 1,604 คัน และสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 จำนวน 10 คัน ยึดบัลลังก์อันดับ 3 ตลาดรถยนต์นั่งไว้อย่างเหนียวแน่น เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยผ่านช่วงที่ยากลำบากมาแล้ว ตอนนี้เครื่องยนต์ทุกตัวเริ่มติดแล้วและกำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้า คาดการณ์ปีนี้ยอดรวมของตลาดรถยนต์ไทยทะลุเกิน 820,000 คัน
นายชาญชัย แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยที่เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ามาจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกของประเทศไทยไปยังภูมิภาคต่างๆ ที่มีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกข้าว และสินค้าทางการเกษตรอื่นๆ การเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ราคาสินค้าการเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น มาตรการของภาครัฐที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร อาทิ การส่งเสริมให้ใช้นวัตกรรมแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า มาตรการส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม หรือ SME การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผนวกกับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งประชาชนภายในประเทศยังคงมีความต้องการสินค้าอุปโภค - บริโภค โดยเฉพาะรถยนต์ที่กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินชีวิตไปแล้ว โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ ภาพรวมของตลาดรถยนต์เป็นไปตามที่คาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 410,00 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 11% เมื่อเทียบกับตัวเลขยอดรวมเมื่อปีที่ผ่านมา 368,630 คัน
มาสด้าประสบความสำเร็จอย่างงดงามในครึ่งปีแรกเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 23,893 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 13% และครองส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 6% มียอดจำหน่ายของแต่ละรุ่น ดังนี้
- มาสด้า2 จำนวน 14,284 คัน เติบโต 26% ครองอันดับ 3 ของตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก
- มาสด้า3 จำนวน 2,677 คัน เติบโต 24% ครองอันดับ 3 ของตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง
- มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จำนวน 2,219 คัน ลดลง 23% แต่หลังการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมยอดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 1,604 คัน รักษาการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
- มาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 3,099 คัน รักษาการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
- มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 จำนวน 10 คัน
ยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้า 6 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม – มิถุนายน) เปรียบเทียบกับ ปี 2559
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า มาสด้าเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทย มีแนวโน้มและทิศทางที่สดใสมากกว่าปีที่ผ่านมา และคาดว่ายอดขายของตลาดรถยนต์จะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา ปีนี้คงจะได้เห็นยอดจำหน่ายมากกว่า 820,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 7-10% ในส่วนของมาสด้าเราตั้งเป้ายอดขายปีนี้ เติบโตสูงสุด 20% หรือประมาณ 51,000 คัน (จากปี 2559 = 42,537) และครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 6% (จากปี 2559 = 5.5%) โดยมาสด้าได้มีการปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้ประกาศไว้ ทั้งในส่วนของตลาดรวมและในส่วนของมาสด้านอกจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว มาสด้ายังมุ่งมั่นในการปรับภาพลักษณ์และการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ของมาสด้า นั่นคือ Mazda Corporate Identity เพื่อยกระดับแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเมื่อได้สัมผัสความเป็นมาสด้า จากทั้งหมด 147 แห่ง จะถูกปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 และเตรียมขยายเพิ่มอีก 20 แห่ง ทั่วประเทศ เตรียมพบกับมาตรฐานใหม่ของการให้บริการทั้งก่อนและหลัง ที่มาสด้าเน้นสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งด้านการขายและการบริการ ติดตามผลการประเมินความพึงพอใจอย่างใกล้ชิด พัฒนาคุณภาพฝีมือช่างซ่อมให้ก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งมาสด้าได้มีการจัดแข่งขันทักษะช่างเทคนิคและการบริการ เพื่อพัฒนามาตรฐานคุณภาพของบริการหลังการขาย
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของครึ่งปีหลังว่า ด้วยการส่งออกที่มีการขยายตัวตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2560 เช่นเดียวกับการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวตามสภาวะการส่งออก ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรขยับขึ้น ผู้บริโภคจึงมีรายได้ในการจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือนมากขึ้น มีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจไทยตลอดปี 2560 ขยายตัวได้ประมาณ 3.5% ซึ่งจะสูงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยตลาดรถยนต์คือหนึ่งในปัจจัยหลักสำคัญชี้วัดตัวเลขทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี รวมทั้งกลยุทธ์หลักสำคัญที่จะนำพามาสด้าก้าวสู่ความสำเร็จในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 นี้
กลยุทธ์หลักสำคัญที่จะผลักดันให้มาสด้าก้าวสู่ความสำเร็จ สามารถบรรลุเป้าหมายในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ประกอบด้วย
1.การนำเสนอรถรุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น ในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ครึ่งปีแรกเปิดตัวไปแล้ว 4 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพิ่มทางเลือกและความหลากหลายให้กับลูกค้า
2.อีกหนึ่งแผนพัฒนาธุรกิจที่มาสด้าได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับการขยายเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการ เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์ที่ลูกค้านึกถึงอยู่เสมอ โดยเริ่มตั้งหน้าบ้าน นั่นคือ การปรับโชว์รูมใหม่ของมาสด้า ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Mazda Corporate Identity ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งตั้งอยู่บนแนวคิดหลัก 3 ประการ คือ สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ สร้างคุณค่าทางอารมณ์ให้แก่รถยนต์มาสด้า และสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรก การเปลี่ยนแปลงที่ลูกค้าสัมผัสได้ รวมไปถึงการวางระบบบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพกับ MAZDA ACTIV SERVICE
- การสร้างความพึงพอใจสูงสุดด้วยความสะดวกสบาย (Convenience) ได้แก่ ศูนย์ซ่อมสี และตัวถังแบบครบวงจร ห้องรับรองลูกค้าที่อบอุ่น หรูหรา และช่องพิเศษในการให้บริการแบบเร่งด่วนไม่เกิน 2 ชั่วโมง
- สัมผัสกับความรวดเร็ว (Fast) กับช่องซ่อมแบบเร่งด่วน จัดเตรียมสำรองอะไหล่ที่จำเป็น การอนุมัติงานซ่อมแบบเร่งด่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุ การจัดส่งอะไหล่ที่รวดเร็ว และตลอด 24 ชั่วโมง
- สร้างมาตรฐานและประสิทธิภาพเดียวกันทุกโชว์รูม (Standardize & Efficiency)
- ราคาที่สบายกระเป๋า โปร่งใส (Price) ทั้งราคาอะไหล่แต่ละชิ้นต้องมีการประกาศให้ลูกค้ารับทราบ ราคาค่าแรงในการให้บริการ ราคาค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง ราคาที่สามารถเปรียบเทียบกับตลา
3.หลังจากการปรับภาพลักษณ์ใหม่ ยกระดับมาตรฐานใหม่ของการให้บริการ สิ่งที่มาสด้าเดินหน้าเต็มกำลังต่อจากนี้ คือ การสื่อสารทางการตลาด สร้างการรับรู้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์ พร้อมแสดงศักยภาพในด้านการบริการหลังการขาย นำเสนอการบริการที่ดีที่สุดเกินความคาดหมาย ทั้งด้านคุณภาพและประสิทธิภาพ
4.เพิ่มช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้นด้วยโปรแกรม Customer Care Menu ผ่านทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้าในทุกเรื่องราวที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า
5.อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่มาสด้านำเสนอให้กับลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของรถได้ง่ายยิ่งขึ้น นั่นคือ การจัดแคมเปญโปรโมชั่น และในเดือนกรกฎาคมนี้มาสด้าจัดแคมเปญขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่นในเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และเลือกใช้รถมาสด้ามากกว่า 100,000 คัน ทั่วประเทศ และด้วยกระแสตอบรับที่ดีของผู้ใช้จริงจนครบ 100,000 คัน อย่างรวดเร็ว จึงมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ “Mazda SKYACTIV Celebration 100,000+” ด้วยดอกเบี้ย 0% ในรุ่นมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 สำหรับมาสด้า2, มาสด้า3 และมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 รับดอกเบี้ยพิเศษ 2.22% พร้อมกับ Mazda Care 3 ปี กระบะสายพันธุ์แกร่งมาสด้า บีที-50 โปร ดาวน์เริ่มต้นเพียง 35,000 บาท และมอบความอุ่นใจตลอดการเดินทางด้วย Mazda Care ฟรี 5 ปี และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท ที่สำคัญเมื่อจองรถมาสด้าทุกรุ่น รับ Mazda Premium Insurance ปกป้องคุ้มครองคนที่เรารักด้วยประกันภัยชั้น 1 จากมาสด้า นอกจากนี้ รับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดี รับบัตรกำนัลมูลค่า 100,000 บาท ทุกวันตลอดแคมเปญ รวม 20 รางวัล 20 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 8 – 27 กรกฎาคม นี้
6.พิเศษที่สุดสำหรับลูกค้ามาสด้าผู้ใช้รถมาสด้าทุกรุ่น มาสด้าขอมอบความปลอดภัยในการขับขี่แด่คุณและคนที่คุณรัก เข้ารับบริการตรวจเช็ครถฟรี 20 รายการ และตรวจเช็คสุขภาพรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Mazda Modular Diagnostic System (M-MDS) ที่ละเอียดแม่นยำ พร้อมรับส่วนลดค่าอะไหล่ ผ้าเบรก โช๊คอัพ ยางหุ้มเพลาขับ สายพานขับ สูงสุด 40% เปลี่ยนยางราคาเริ่มต้นเพียง 2,300 บาท ต่อเส้น แถมฟรี ยางปัดน้ำฝน 1 คู่ แบตเตอรี่ราคาเริ่มต้น 1,700 บาท ระยะเวลานานถึง 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2560 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โชว์รูมมาสด้า หรือมาสด้าสปีดไลน์ 0-2030-5666
7.ปัจจุบันการตลาดแบบ Words of Mouth หรือการบอกต่อปากต่อปากโดยผู้มีประสบการณ์จริง มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในยุคของการสื่อสารในปัจจุบัน ถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้สึก ผ่านการเขียนรีวิว หรือแชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะโลกการสื่อสารของผู้คนในสังคมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาโดยผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย ดังนั้นมาสด้าเตรียมจัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษ ที่จะถ่ายทอดและแบ่งปันเรื่องราวความประทับใจ และประการณ์จริงจากลูกค้าที่ใช้งานจริง
8.อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสกับตัวตนของแบรนด์มาสด้าคือการออกบูธจัดแสดงรถยนต์ในพื้นที่ต่างๆ หรือ Road Show เสมือนการเดินเข้าไปหาลูกค้าถึงหน้าบ้าน เจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะมีความแตกต่างด้วยวิถีชีวิต รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า มาสด้าจะเดินหน้าจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม
มาสด้าพร้อมที่จะเดินหน้าเต็มกำลังด้วยกลยุทธ์รอบด้านบนเส้นทางการดำเนินธุรกิจที่แตกต่าง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ มอบคุณค่าและเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ตอบสนองต่อความต้องการให้ครบทุกข้อ ดูแลและสานสัมพันธ์ให้แนบแน่นและยืนยาว เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้มาสด้ากลายเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้ารักและจะรักตลอดไป
ข่าวเด่น