ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เผยขยายเวลายื่นกู้ “กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีประชารัฐ” วงเงิน 20,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1% ในพื้นที่ 62 จังหวัด ออกไปจนถึง 30 ก.ย.60 เพื่อขยายโอกาสเอสเอ็มอีในภูมิภาคเข้าถึงแหล่งทุนต้นทุนต่ำได้มากและทั่วถึงยิ่งขึ้น แจงคืบหน้า ยอดเต็มจำนวนแล้ว 15 จังหวัด จำนวนกว่า 2,100 ราย ยอด 11,000 ล้านบาท
นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ และประธานกรรมการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เปิดเผยว่า ธพว. ในฐานะหน่วยงานร่วมในการบริหารงานโครงการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ร่วมกับ กระทรวงอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ลงพื้นที่จัดงาน “คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรตามแนวประชารัฐ” เพื่อขับเคลื่อนมาตรการช่วยเหลือ SMEs ผ่านกองทุนต่างๆ วงเงินรวม 38,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของ ธพว. วงเงิน 15,000 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี และกองทุนพลิกฟื้นของ สสว. วงเงิน 2,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับความคืบหน้าของการดำเนินงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ขณะนี้ มีผู้ประกอบการ SMEs ที่ประสงค์ยื่นคำขอสินเชื่อ ผ่านทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด จำนวน 2,191 ราย วงเงิน 11,056 ล้านบาท ผู้ประกอบการยื่นคำขอสินเชื่อผ่านทาง ธพว. จำนวน 1,543 ราย วงเงิน 7,377 ล้านบาท
ส่วนจังหวัดที่มีผู้ประกอบการยื่นคำขอสินเชื่อเต็มวงเงินแล้ว มีทั้งหมด 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ ชลบุรี อุดรธานี ปทุมธานี สุรินทร์ สุโขทัย ปราจีนบุรี เชียงราย ศรีสะเกษ ประจวบคีรีขันธ์ นครปฐม ร้อยเอ็ด และ กาญจนบุรี ซึ่งกองทุนปิดรับคำขอกู้ไปแล้ว
ทั้งนี้ เพื่อขยายโอกาสสำหรับ SMEs ที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อกองทุนฯ ดังกล่าว สำหรับจังหวัดที่ยังมีวงเงินคงเหลือนั้น จะดำเนินการ ขยายระยะเวลาปล่อยกู้ไปจนถึง 30 กันยายน 2560 รวม 62 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ เพชรบุรี พังงา สิงห์บุรี นราธิวาส ยะลา ตราด ชัยนาท ตาก นนทบุรี ปัตตานี สมุทรสาคร มหาสารคาม ระยอง สุพรรณบุรี นครพนม สมุทรปราการ สระแก้ว บึงกาฬ ภูเก็ต สงขลา กำแพงเพชร สกลนคร หนองบัวลำภู อ่างทอง บุรีรัมย์ ยโสธร นครศรีธรรมราช ชุมพร จันทบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ นครนายก อุทัยธานี พัทลุง หนองคาย ตรัง ชัยภูมิ อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี สมุทรสงคราม พิจิตร ราชบุรี ลำพูน นครราชสีมา กาฬสินธุ์ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ระนอง น่าน เลย สตูล มุกดาหาร ฉะเชิงเทรา อยุธยา สุราษฎร์ธานี สระบุรี พิษณุโลก กระบี่ พะเยา แพร่ และ อำนาจเจริญ
“รัฐบาลต้องการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะรายเล็กๆ เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ ดังนั้น ขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบตามกำหนด และมีธุรกิจอยู่ในกลุ่มยุทธศาสตร์ของแต่ละจังหวัดที่ยังเปิดรับทั้ง 62 จังหวัดดังกล่าว ที่ประสงค์ยื่นคำขอสินเชื่อโครงการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ เร่งเข้ามาติดต่อได้ที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศในเขตพื้นที่ของท่าน หรือ ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SME Support & Rescue Center) หรือโทรติดต่อ Call Center 1358 หรือ 02-202-3265, 02-202-3767” นายสมชาย ระบุ
สำหรับกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ มีเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ระยะเวลาชำระคืน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 3 ปี ไม่ต้องมีหลักประกัน ให้กู้สูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย
ข่าวเด่น