ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้นบริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) (EIC) ศึกษาข้อมูลและไปใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 กรณีการเพิ่มทุนเพื่อเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท ส.ธนา มีเดีย จำกัด
EIC จะขออนุมัติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 เพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท ส.ธนา มีเดีย จำกัด (บริษัท ส.ธนา) มูลค่า 372 ล้านบาท และขออนุมัติเพิ่มทุนหุ้นสามัญจำนวนกว่า 5,300 ล้านหุ้น ที่ราคา par 1 บาท เพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นของบริษัท ส.ธนา ซึ่งทำธุรกิจป้ายโฆษณา และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับ EIC โดยขนาดรายการเพิ่มทุนดังกล่าวมีขนาดใหญ่คิดเป็นร้อยละ 99 ของมูลค่าสินทรัพย์ของ EIC
คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบของ EIC เห็นว่า การเข้าทำรายการดังกล่าวสมเหตุสมผล เนื่องจากการลงทุนในบริษัท ส.ธนา จะช่วยกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจของ EIC โดยเป็นการเพิ่มโอกาสในการมีรายได้จากธุรกิจป้ายโฆษณาซึ่งมีศักยภาพในการเติบโต โดยคณะกรรมการบริษัท EIC ได้พิจารณาราคาทรัพย์สินของบริษัท ส.ธนา จากการประเมินราคาของผู้ประเมินทรัพย์สิน ซึ่งได้พิจารณาความสามารถในการทำกำไรในธุรกิจดังกล่าวในอนาคต และเห็นว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลในเชิงธุรกิจ
อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติให้ EIC เข้าทำรายการลงทุนดังกล่าวเนื่องจากราคาเสนอซื้อหุ้นมีมูลค่าสูงกว่าราคาประเมินที่จัดทำโดย IFA อย่างมีนัยสำคัญ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา บริษัท ส.ธนา จะมีผลการดำเนินงานที่ดี มีกำไรสม่ำเสมอ และการลงทุนในบริษัท ส.ธนา จะทำให้ EIC มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ EIC ก็ตาม แต่การทำรายการดังกล่าว อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ EIC ในอนาคตได้ในหลายประการ อาทิ การไม่มีความชำนาญในธุรกิจป้ายโฆษณา ประเด็นด้านความครบถ้วนของเอกสารการขออนุญาตโครงป้ายและสัญญาประกันภัยที่อาจไม่ครบทุกโครงป้าย รวมถึงประเด็นความเป็นไปได้ในการที่ EIC จะต้องยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อให้พิจารณารับหลักทรัพย์ใหม่ หากภายหลังการเข้าทำรายการ EIC มีโครงการลงทุนเพิ่มเติม จนทำให้มีขนาดรายการรวมสูงกว่าร้อยละ 100 ของมูลค่าสินทรัพย์ของ EIC
ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลโดยละเอียดและใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมกับซักถามผู้บริหาร EIC ถึงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนในการประกอบการตัดสินใจด้วย
อนึ่ง รายการดังกล่าวข้างต้นต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย
ข่าวเด่น