ธุรกิจทีวีดิจิทัลยังคงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยสะท้อนจากการรายงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุ รายได้รวมฟรีทีวี-ทีวีดิจิตอลตั้งแต่ปี 2556-2559 โดยพบว่า เกือบทุกช่องไม่มีกำไร และยังประสบกับปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่อง โดยปรากฎว่าเกือบทุกช่องนั้นมีผลการประกอบการที่ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ขาดทุนมากที่สุดในปี 2559 คือช่องพีพีทีวี ขาดทุนถึง 1,996 ล้านบาท รองลงมาคือ ไทยรัฐทีวีขาดทุน 928 ล้านบาท, ช่องอัมรินทร์ ทีวีขาดทุน 846 ล้านบาท และช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวีมีตัวเลขขาดทุนที่ 782 ล้านบาท
ซึ่งในปี 2559 มีเพียง 2 ช่องทีวีเท่านั้นที่มีผลประกอบการที่เป็นบวก คือช่อง 7 ที่มีกำไร 1,567 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าลดลงมาอย่างมากจากปี 2557 ที่มีกำไรถึง 5,510 ล้านบาท และปี 2558 ที่ 2,723 ล้านบาท
ขณะที่ช่องที่มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ก็คือช่องเวิร์คพอยท์ ทีวี ที่มีผลประกอบการในปี 2559 ที่ 106 ล้านบาท ทั้งที่ในปี 2556-2558 นั้น ช่องเวิร์คพอยท์เองมีการขาดทุทนอย่างต่อเนื่องที่ 4 ล้านบาท, 208 ล้านบาท และ 8 ล้านบาทตามลำดับ
ส่วนการดำเนินงานของช่อง3 นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ว่า บริษัทกำไรสุทธิ 1,218.29 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.61 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,982.71 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.49 บาท หรือกำไรสุทธิลดลงกว่า 1,764.42 ล้านบาท คิดเป็น 59.15%
โดยสาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิปรับตัวลดลง เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาจากช่อง 3 ซึ่งเป็นธุรกิจหลักได้ลดลงต่ำกว่าปีก่อนในอัตราสูง สวนทางกับรายได้จากการขยายงานการดำเนินงานช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลที่เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าบริษัทจะควบคุมให้ต้นทุน และค่าใช้จ่ายลดลงได้ แต่ยังไม่เพียงพอกับรายได้หลักที่ลดลง
ซึ่งผลการดำเนินงานที่ขาดทุน ทำให้มีกระแสข่าวการขายกิจการ แต่ในที่สุดผู้บริหารช่อง 3 ได้ปฎิเสธขข่าว โดย กลุ่ม บีอีซี เวิลด์ ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า นายประชุม มาลีนนท์ ในฐานะ ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารกลุ่มบริษัท และในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นของตระกูลมาลีนนท์ทั้งหมด ขอยืนยันว่า ตระกูลมาลีนนท์ไม่มีเจตนารมณ์ใดๆ ที่จะขายหุ้นหรือขายกิจการของสถานีโทรทัศน์ช่อง 33 และช่อง 28 ให้แก่กลุ่มธุรกิจหรือบุคคลใดทั้งสิ้น
ปัจจุบันการบริหารกลุ่ม บริษัท บีอีซี เวิลด์ฯ อยู่ภายใต้การนำของ นายประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท และเสริมทีมด้วยนักบริหารที่มีความเชี่ยวชาญจากหลากหลายภาคธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจคอนเทนส์ ธุรกิจสื่อ ธุรกิจเทคโนโลยีโทรคมนาคม เป็นต้น ที่ได้เข้ามาร่วมงานกับกลุ่มบริษัท บีอีซี เวิลด์ฯ ด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของแต่ละท่านจะช่วยส่งเสริมให้กลุ่มบริษัท บีอีซี เวิลด์ฯ มีความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจในยุคดิจิตอลที่สูงยิ่งขึ้น และแต่ละท่านนั้น ได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานกับบริษัทที่เคยร่วมงานด้วยแล้วทุกท่าน
“กลุ่มบริษัทของเราจะดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยืนหยัดอย่างมั่นคง เพื่อตอบสนองความบันเทิงและส่งมอบความสุขให้กับประชาชนทั่วประเทศต่อไป ทั้งนี้ขอขอบพระคุณพันธมิตรทางธุรกิจของเราทั้งผู้จัดรายการ ผู้ผลิตรายการ นักแสดง พนักงาน และ ผู้ถือหุ้น ที่ได้ให้ความร่วมมือร่วมใจทำงานและสนับสนุนกลุ่มบริษัทด้วยดีตลอดมา เราจะดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าแก่สังคมและประเทศตามปณิธานของเราสืบไป ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนที่รักทุกแขนงและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายโปรดเข้าใจจุดยืนของกลุ่มบริษัท และขอขอบพระคุณที่สนับสนุนกลุ่มบริษัทด้วยดีมาโดยตลอด”แถลงการณ์ของกลุ่มบริษัท บีอีซี เวิลด์ ระบุ
ข่าวเด่น