นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลังว่าราคาทองน่าจะยังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัวจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ แนวทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาทองคงไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับ 1,120 ดอลลาร์/ออนซ์
"ส่ิงที่ตลาดกังวล คือ แนวทางบริหารเศรษฐกิจของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หลังไม่สามารถผลักดันร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ให้ผ่านวุฒิสภาได้ รวมถึงการสืบสวนคดีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ รวมถึงในเดือนกันยายนและพฤศจิกายนปีนี้ ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ตลาดส่วนใหญ่มองว่าการประชุมในวันพรุ่งนี้ เฟดยังคงอัตราดอกเเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่การประชุมครั้งต่อไปในปีนี้ยังต้องติดตาม เพราะมีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการลดขนาดงบดุลจากปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้เหลือ 2-2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯและยังมีประเด็นกองทุน SPDR ที่ในช่วงครึ่งปีแรกเข้าซื้อทองคำ 30 ตัน ซึ่งต้องจับตากองทุน SPDR จะขายทองคำที่ถืออยู่เพื่อทำกำไรหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากกองทุน SPDR ขายทองออกมาจริงผลกระทบต่อราคาทองไม่น่าจะมาก เพราะ
ปริมาณทองมีเพียงเล็กน้อย"นายธนรัชต์กล่าว
ข่าวเด่น