นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นพันธมิตรในโครงการ “ประกันชีวิตเปี่ยมสุข” จากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 และได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการและสมาชิก กบข. เป็นอย่างดี โดยปีนี้เรายังคงมุ่งมั่นในนโยบาย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric)” เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าถึง และเหมาะสมกับความต้องการของสมาชิก กบข. อย่างแท้จริง
ความร่วมมือในโครงการ “ประกันชีวิตเปี่ยมสุข” ครั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมแบบประกันชีวิตที่มีความหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกอย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่วางแผนด้านความคุ้มครองชีวิต การบริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และการบริหารสินทรัพย์ต่างๆ ซึ่งมีความหลากหลายของทั้งระยะเวลาความคุ้มครองและระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตะกาฟุล ซึ่งเหมาะสมสำหรับสมาชิกที่นับถือศาสนาอิสลาม โดยบริษัทฯ มีคณะกรรมการเมืองไทยชารีอะห์ที่คอยให้คำปรึกษาในด้านหลักศาสนาที่ถูกต้องและโปร่งใส
โดยผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ นำมาเสนอครั้งนี้ ประกอบด้วย โครงการเมืองไทยข้าราชการสุขสันต์ โครงการเปี่ยมสุข เมืองไทยคุ้มครองตลอดชีพ 99/20 โครงการเปี่ยมสุข เมืองไทยรับทรัพย์ตลอดชีพ 90/7 โครงการเปี่ยมสุข เมืองไทย ธนทรัพย์ 25/15 โครงการเปี่ยมสุข ออมทรัพย์ 20/14 โครงการเปี่ยมสุข เมืองไทยธนพันธุ์ และแบบประกันใน “โครงการเมืองไทยตะกาฟุล” ประกอบด้วย โครงการเปี่ยมสุข ตะกะฟุล ตลอดชีพ 95/20 โครงการเปี่ยมสุข เมืองไทยตะกาฟุลแฮปปี้ ไลฟ์ 21/21 และ โครงการเปี่ยมสุข ตะกาฟุลออมทรัพย์ 20/15
บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต พร้อมให้บริการทุกท่านด้วยระบบการทำงานที่ทันสมัย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ผ่านตัวแทนคุณภาพและสำนักงานสาขาที่มีศักยภาพครอบคลุมทั่วประเทศ มีความเป็นมืออาชีพ ที่ยึดมั่นในจรรยาบรรณสูงสุด โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงานสาขาจำนวน 178 แห่งทั่วประเทศ โดยเป็นสาขาในห้างสรรพสินค้า 48 แห่ง และสาขาในโรงพยาบาล 3 แห่ง อาทิ โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากที่สุดอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ มีเครือข่ายสถานพยาบาลกว่า 440 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญาที่เปิดให้บริการ Fax-Claim 24 ชั่วโมง กว่า 280 แห่งทั่วประเทศ
นายสาระ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพแก่สมาชิก กบข. ทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมบริการใหม่ๆ ในโครงการ “Premier Health Solutions” ไม่ว่าจะเป็นการให้สิทธิ์ซื้อบริการตรวจ myTHAIDNA มิติใหม่ของการดูแลและเข้าใจตัวเองผ่านการตรวจ DNA ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สามารถช่วยให้คุณจัดการและดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดโครงการ ได้ที่ www.mythaidna.com , www.muangthai.co.th หรือติดต่อตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิตทั่วประเทศ
ตลอดจนการเพิ่มบริการ Health at Home ที่ให้สมาชิกเมืองไทย Smile Club สามารถใช้คะแนนสะสมSmile Point แลกรับบริการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่บ้าน ในแบบ Home Care จาก “Health at Home” ทั้งยังมีบริการ “MTL Global Connect” ซึ่งเป็นบริการที่มอบความอุ่นใจ แก่ลูกค้าที่มีประกันชีวิตและสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพตามที่บริษัทฯ กำหนด เมื่อเจ็บป่วยต่างแดน สามารถเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลได้ทั่วโลกตามสิทธิ์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย รวมถึงให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพเบื้องต้น และการแนะนำโรงพยาบาลที่จะเข้ารับการรักษาในต่างแดน ตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์การตอบสนองความต้องการอย่างครบวงจรของเมืองไทยประกันชีวิตได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ สมาชิก กบข. ที่ใช้บริการของเมืองไทยประกันชีวิต ยังสามารถสมัครเป็นสมาชิก “เมืองไทย Smile Club” เพื่อร่วมกิจกรรมแห่งความสุขและรอยยิ้ม พร้อมรับสิทธิประโยชน์ที่ได้คัดสรรไว้อย่างมากมายตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกตลอดทั้งปี และอำนวยสะดวกแก่ผู้เอาประกันในยุคดิจิตอล ผ่าน Smile Service Application เพื่อตรวจสอบรายละเอียดกรมธรรม์ สิทธิประโยชน์ต่างๆ ตลอดจนการเข้าร่วมกิจกรรม “เมืองไทย Smile Club” รวมถึง โทร 1766 เมืองไทย Smile ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
และในโอกาสที่เมืองไทยประกันชีวิต ได้รับคัดเลือกให้เป็นพันธมิตรมาอย่างยาวนานต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ในช่วงเดือนสิงหาคม – ธันวาคม 2560 นี้ เพื่อเป็นการขอบคุณสมาชิก กบข บริษัทฯได้จัดเตรียมของขวัญชิ้นพิเศษมอบให้แก่สมาชิกกบข.ที่สมัครเข้าร่วมโครงการประกันชีวิตเปี่ยมสุข ตามเงื่อนไขของบริษัทฯ
ข่าวเด่น