“ซัมมิทแคปปิตอล” ยิ้มแก้มปริ ครึ่งปียอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เพิ่ม 44% ขณะที่อุตสาหกรรมโตเพียง 4 % เท่านั้นคาดทั้งปีเติบโต กว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35% “วิชิต” มั่นใจก้าวขึ้นอันดับ 1 ครองเจ้าตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ของประเทศไทยในปีหน้าพร้อมเดินตามนโยบาย BECOMING NUMBER 1 ขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการใน 68 จังหวัดในประเทศไทยภายในปี 2560 เน้นเพิ่มพื้นที่ในภาคเหนือเพิ่มอีก
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของผลประกอบการว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดเติบโตของลูกค้าผู้ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 44% ในขณะที่อุตสาหกรรมโตเพียงแค่ 4 % ซึ่งถือว่าเติบโตดีมาก
นายวิชิตกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันตลาดรถมอเตอร์ไซด์ยังคงทรงตัวและไม่มีการขยายตัวมาประมาณ 3 ปี เพราะยังได้รับอานิสงส์จากภาครัฐบาลที่ยังมีการใช้จ่ายทำให้ผู้ผลิตต่างหนีจากเดิมที่ผลิตรถขนาดซีซีไม่เกิน 150 ซีซี .ที่ราคาขายอยู่ที่คันละ 45,000 บาท ไปผลิตรถขนาดสปอร์ตซีซีที่สูงกว่าแต่ราคาสูงกว่าถึงคันละ 8-9 หมื่นบาท ดังนั้น ถึงแม้ในอุตสาหกรรมจะโตเพียง 4% แต่เม็ดเงินนั้นก็ยังคงสูงกว่า
“เราจึงได้อานิสงส์จากการที่ผู้ผลิตหันมาเล่นไซส์ใหญ่เราจึงได้พอร์ตการปล่อยสินเชื่อที่ใหญ่ขึ้นประมาณ 7,000-10,000 คัน ต่อ เดือน ซึ่งผมคาดการณ์ว่าในปีหน้าเราจะเป็นเจ้าตลาดอันดับ 1 ของประเทศในตลาดเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์”นายวิชิตกล่าว
นายวิชิตกล่าวต่ออีกว่า ขณะที่ในปัจจุบันเรามียอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อเติบโต 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ยอดการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ใน 6 เดือนแรกของปี 2560 ตามรายงานของกรมการขนส่งทางบกอยู่ที่ 949,608 คัน เพิ่มขึ้น 4 % จากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มียอดจำหน่าย 910,020 คัน ดังนั้นปัจจุบันเรามีสินเชื่อ กว่า 6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 550-600 ล้านบาท ต่อ เดือน โดยคาดว่า ณ สิ้นเดือน มีนาคม 2561 จะมียอดคงค้างสินเชื่อ เช่าซื้อ 10,000 ล้านบาท และมีจำนวนรายต่อเดือน มากกว่า 10,000 รายซึ่งถือว่าเป็นอันดับ 1 ในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดย มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล 0.8% มี อัตราการ อนุมัติสินเชื่อ ที่ 75-80%
ปัจจุบัน บริษัทฯมียอดรวมเงินกู้ที่มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ 94% และสินเชื่อบุคคล 6% ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ถึงแนวโน้มยอดสินเชื่อคงค้างโดยรวมปีนี้ว่าน่าจะเติบโตสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้หรือเกินจาก 35% และมีแผนควบคุมคุณภาพหนี้เสียให้อยู่ในระดับไม่เกิน 1% โดยหลังจากที่เศรษฐกิจภายในประเทศส่งสัญญาณบวกมากขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2559 จนถึงขณะนี้ บริษัทฯจึงมั่นใจว่ายอดผู้ยื่นขอสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะเพิ่มขึ้น และทางบริษัทฯ ยังคงเดินตามนโยบาย BECOMING NUMBER 1 ขยายสาขา เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการใน 68 จังหวัดในประเทศไทยภายในปี 2560 โดยเพิ่มพื้นที่ในภาคเหนือเพิ่มอีกหนึ่งภาค และยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรดีลเลอร์ที่มีจำนวนมากกว่า 780 ราย และมีจำนวนร้านขายรถจักรยานยนต์มากกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศ พร้อมยินดีต้อนรับพันธมิตรดีลเลอร์เจ้าใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รองรับกับความต้องการของลูกค้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี นอกจากบริษัทเราจะทำด้านให้บริการด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์แล้วเรายังมีการให้บริการด้าน สินเชื่อบุคคลซึ่งได้เริ่ม เปิดบริการมาประมาณ 1 ปี ปัจจุบันมียอดคงค้างไม่ถึง 1,000 ล้าน บาท มีจำนวนลูกค้าประมาณ 1,000 กว่าราย และยังไม่มีบัญชีหนี้ค้างชำระเอ็นพีแอล เนื่องจากบริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูง หรือ มีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน มีอัตราการอนุมัติสินเชื่อที่ 30% ซึ่งเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะไม่กระทบกับบริษัท เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีรายได้ 50,000 บาท ต่อเดือน แต่ก็จะ ทำให้เกิด การแข่งขันเพิ่มขึ้น
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทคาดการณ์เศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก จากภาคการส่งออกการ ท่องเที่ยวและราคาสินค้าเกษตร ที่ปรับตัวดีขึ้นซึ่งน่าจะทำให้บริษัทมียอดคงเหลือสินเชื่อโดยรวมได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35% และสามารถบรรลุนโยบาย.BECOMING NUMBER 1 ได้ อย่างต่อเนื่อง ในปี 2561หรือ มียอดปล่อยกู้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ สูงกว่า 10,000 ราย อย่างต่อเนื่อง
ข่าวเด่น