นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวไทย ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ว่า ไทยส่งออกข้าวแล้วปริมาณ 6.37 ล้านตัน มูลค่า 94,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีปริมาณส่งออกข้าว 5.46 ล้านตัน มูลค่า 86,155 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในด้านปริมาณร้อยละ 16.67 และด้านมูลค่าร้อยละ 9.68 ตามลำดับ โดยชนิดข้าวที่ไทยส่งออกมากเป็นอันดับ 1 คือ ข้าวขาว (ร้อยละ 48) รองลงมาได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย (ร้อยละ 22) และ ข้าวนึ่ง (ร้อยละ 22) ทั้งนี้ ในทุกตลาดสำคัญพบว่าปริมาณการส่งออกข้าวไทยมีสัดส่วนการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดจีน (á ร้อยละ 46) ฟิลิปปินส์ (áร้อยละ 56) สหรัฐ (áร้อยละ 4) และฮ่องกง (áร้อยละ 15) รวมทั้ง กลุ่มประเทศนำเข้าสำคัญในตลาดแอฟริกา ได้แก่ เบนิน (áร้อยละ 45) แอฟริกาใต้ (áร้อยละ 9) เป็นต้น
สำหรับสถานการณ์ภาพรวมการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังคงมีแนวโน้มที่ดีตามปริมาณความต้องการข้าวในตลาดหลักยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่องๆ เนื่องจากผลผลิตข้าวในหลายประเทศเสียหายจากภัยแล้งและน้ำท่วม เช่น บังคลาเทศและศรีลังกา สำหรับตลาดแอฟริกา พบว่าสภาพเศรษฐกิจ มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดตะวันออกกลาง โดยเฉพาะ อิรัก อิหร่าน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้หยุดการนำเข้าข้าวจากไทย ก็เริ่มกลับมานำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณเชิงบวกที่ทำให้มั่นใจว่าไทยจะสามารถ ส่งออกข้าวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 ล้านตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า
ในปี 2560 กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมขยายตลาดเชิงรุกกับประเทศผู้นำเข้าสำคัญในทุกภูมิภาคทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปเจรจาขยายตลาดข้าวไทยและ กระชับความสัมพันธ์ทางการค้าในตลาดจีน ญี่ปุ่นและฮ่องกง และเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญเพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทย เช่น งาน Biofach เยอรมนี งาน Foodex ญี่ปุ่น งาน Thai Festival เดนมาร์ก เป็นต้น รวมทั้งการจัดงาน Thailand Rice Convention 2017 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้นำเข้า/ผู้ซื้อข้าวจากทั่วโลก สมศักดิ์ศรีของผู้นำในวงการค้าข้าวโลก
สำหรับปี 2561 กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้บูรณาการทำงานร่วมกันในการจัดทำแผนขยายตลาดข้าวไทยเชิงรุก เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและกระตุ้นการบริโภคข้าวไทยร่วมกับร้านอาหาร/ซุปเปอร์มาร์เก็ต/ห้างสรรพสินค้ากว่า 15 โครงการครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก และการจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปเจรจาขยายตลาดข้าว ทั้งในกลุ่มประเทศตลาดดั้งเดิมและตลาดใหม่ เช่น กลุ่มประเทศในภูมิภาค อเมริกากลางและใต้ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างช่องทางในการขยายตลาดข้าวไทยและสามารถหาตลาดรองรับผลผลิตข้าวปี 2560/61 ที่กำลังจะออกสู่ตลาดและจะสามารถช่วยรักษาเสถียรภาพราคาข้าวไทย ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยให้เกษตรกร ขายข้าวเปลือกได้ในราคาดีขึ้น
นอกจากนี้ สำหรับตลาดนวัตกรรมข้าวไทย กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม (สกน.) หรือ Institute for Agricultural Product Innovation (APi) ได้เร่งขับเคลื่อน สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับมิติใหม่ของข้าวไทย และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้านวัตกรรมข้าวไทย ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2560 ได้ร่วมกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) คัดเลือกผู้ประกอบการในเครือข่ายไปจัดงานแสดงและจัดจำหน่ายสินค้า ณ ตลาด อ.ต.ก. โดยสามารถสร้างยอดขาย รวมทั้งสิ้นประมาณ 550,000 บาท และ สกน. มีกำหนดจะจัดงานแสดงและจัดจำหน่ายสินค้านวัตกรรมข้าว ระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2560 ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล (บางนา) ซึ่งเป็นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้านวัตกรรมข้าวไปสู่ธุรกิจการค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น
นอกจากนี้ สกน. จะดำเนินการในการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการ โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมทรัพย์สินทางปัญญา (ทป.) เป็นต้น เพื่อให้การดำเนินงาน แก้ไขปัญหา/อุปสรรค ในการประกอบธุรกิจเป็นไปอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข่าวเด่น