บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT”) ประกาศกำไรสุทธิจำนวน 737 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากไตรมาส 2 ปี 2559 ซึ่งมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 596 ล้านบาท การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจทั้งสามกลุ่มของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทสามารถสร้างการเติบโตของผลกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง จากการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและการมีธุรกิจและแบรนด์ที่กระจายในหลากหลายภูมิภาค แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้และสภาพเศรษฐกิจในบางประเทศที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่มีการชะลอตัวลง ส่วนในครึ่งปีแรกของปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 2,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากครึ่งปีแรกของปี 2559 ซึ่งมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 2,239 ล้านบาท อันมีผลมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจทั้งสามกลุ่มของบริษัท
ไมเนอร์ โฮเทลส์ มีกำไรสุทธิจำนวน 287 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จาก 237 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2559 การเติบโตดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องของกลุ่มโอ๊คส์และการพลิกฟื้นผลการดำเนินงานของโครงการ อนันตรา เวเคชั่น คลับ กลุ่มโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของเองมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPar) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ในไตรมาส 2 ปี 2560 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากโรงแรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของเองในประเทศไทยมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากช่วงไว้อาลัย โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ในไตรมาส 2 ปี 2560 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของเองในต่างประเทศมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ในไตรมาส 2 ปี 2560 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากการปรับปรุงโรงแรมเสร็จสิ้น โรงแรมทิโวลีสองแห่งในประเทศบราซิลยังคงมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ในขณะที่โรงแรมในประเทศโปรตุเกสเริ่มแสดงการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนในไตรมาส 2 ปี 2560 ส่วนโรงแรมในประเทศแอฟริกาซึ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 10 นอกจากนี้ โรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของเองในประเทศมัลดีฟส์เริ่มแสดงสัญญานฟื้นตัว โดยมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเป็นบวกเล็กน้อยในไตรมาส 2 ปี 2560 จากอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการทำการตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย ส่วนโครงการอนันตรา เวเคชั่น คลับมีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสาม ไตรมาสติดต่อกัน ภายหลังจากได้มีการปรับปรุงรูปแบบการขาย โดยมีการเติบโตของรายได้ในอัตรามากกว่าร้อยละ 50 ในไตรมาส 2 ปี 2560 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจโรงแรมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไมเนอร์ โฮเทลส์คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ โดยประเทศไทยจะยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งจากช่วงไว้อาลัยตลอดปีนี้ ในขณะที่ประเทศโปรตุเกสจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในไตรมาส 3 และโรงแรมหลายแห่งในประเทศโปรตุเกสจะสามารถเพิ่มค่าห้องเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ได้สูงกว่าในอดีต ภายหลังจากที่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ สำหรับโรงแรมในประเทศบราซิล การปรับปรุงโรงแรมจะช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักและค่าห้องเฉลี่ยต่อคืน ท้ายสุด การขายโครงการบ้านพักตากอากาศและอนันตรา เวเคชั่น คลับ จะช่วยให้รายได้ของไมเนอร์ โฮเทลส์เติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอดปีนี้
ไมเนอร์ ฟู้ด ประกาศกำไรสุทธิจำนวน 431 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2560 เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2559 จำนวน 359 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากกลุ่มธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยและจีน แม้ว่ากลุ่มธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยจะมียอดขายต่อร้านเดิมอ่อนตัวลงในไตรมาส 2 ปี 2560 จากการชะลอตัวของการบริโภคภายในประเทศและผลการดำเนินงานที่สูงกว่าปกติในไตรมาส 2 ปี 2559 จากนโยบายหักลดหย่อนภาษีเงินได้ของรัฐบาลในเดือนเมษายน ปี 2559 แต่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยยังคงสามารถขยายเครือข่ายสาขาร้านอาหาร ส่งผลให้มียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 ในไตรมาส 2 ปี 2560 ส่วนกลุ่มธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีนมีการเติบโตของยอดขายโดยรวมในอัตราร้อยละ 6.1 ในไตรมาส 2 ปี 2560 ทั้งนี้ ด้วยการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 8 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเป็นทั้งหมด 2,037 สาขา ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2560 ส่งผลให้ไมเนอร์ ฟู้ดมียอดขายโดยรวมทุกสาขาเติบโตในอัตราร้อยละ 5.7 ในไตรมาสนี้ จากการชะลอตัวของสภาพเศรษฐกิจในตลาดหลักของบริษัท ไมเนอร์ ฟู้ดได้ให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การปรับปรุงระบบส่วนกลางของธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีนให้มีประสิทธิภาพ กำไรที่แข็งแกร่งจากเวเนเซียโน่ คอฟฟี่ โรสเตอร์ในประเทศออสเตรเลีย และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของตลาดใหม่ๆ ของบริษัท ได้แก่ ตะวันออกกลางและอินเดีย ก็ช่วยให้อัตราการทำกำไรของบริษัทดีขึ้นเช่นกัน ไมเนอร์ ฟู้ดคาดว่าจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอดปีนี้ ถึงแม้ว่าภาวะการบริโภคภายในประเทศไทยจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าและการออกกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในตลาด ส่วนกลุ่มธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีนคาดว่าจะได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการทำกำไรที่สูงขึ้น จากการปรับปรุงระบบการจัดซื้อและขนส่งและการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ดีขึ้น
ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ มีกำไรสุทธิจำนวน 18 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2560 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาส 2 ปี 2559 ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 1 ล้านบาท การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิมีสาเหตุมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของกลุ่มแฟชั่น โดยเฉพาะแบรนชาร์ล แอนด์ คีธและอเนลโล่ ส่วนธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้ามีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 2 ปี 2560 ไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์จะยังคงขยายเครือข่ายแบรนด์กลุ่มสินค้าแฟชั่นและเครื่องใช้ในบ้านและครัวเรือนอย่างระมัดระวังเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ข่าวเด่น