นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบขยายเวลาคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต ที่ 7% ต่อปี ออกไปอีก 1 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60 - 30 ก.ย. 61 จากเดิมสิ้นสุดระยะในวันที่ 30 ก.ย.60 เพื่อช่วยดูแลค่าครองชีพประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะหากมีการปรับเพิ่มภาษีแวตในช่วงนี้จะกระทบการบริโภค อาจทำให้เศรษฐกิจขยายตัวชะงักได้
นอกจากนี้เพื่อกระตุ้นกลไกทางเศรษฐกิจ และให้ประชาชนมีกำลังซื้อในการจับจ่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจให้กับภาคเอกชน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนาดใหญ่สามารถดำเนินการไปได้อย่างต่อเนื่อง อันจะทำให้การบริโภคและการลงทุนของประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคงต่อไป
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลได้มีมาตรการดูแลช่วยเหลือ อย่างต่อเนื่องแต่ไม่ใช่นำงบประมาณกลางไปถมมากเกินไป โดยเรื่องค่ารักษาพยาบาลก็ฟรีทั้งหมด และเรื่องการศึกษาก็ให้มีการเรียนฟรี แต่มีบางอย่างที่ให้ฟรีไม่ได้ รัฐบาลต้องหาวิธีการโดยจะต้องไม่เพิ่มภาระให้ประชาชน เช่นเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ยืนยันว่ารัฐบาลไม่คิดจะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งถ้าตามกฎหมายก็ต้องขึ้นไป 10% แต่ก็เพิ่มไม่ได้ จึงขออนุมัติให้เก็บในอัตราที่ 7% ก่อน เพราะคนในประเทศของเรายังไม่พร้อม
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่คง 7% จากเพดาน 10% ทำให้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลงทุนและการบริโภค ส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้ 2.326 แสนล้านบาท แต่ไม่กระทบกับการจัดเก็บรายได้ภาพรวม เพราะได้ตั้งสมมุติฐานประมาณการคงแวต 7% ไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว
ทั้งนี้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ได้รายงานแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจของไทยในปี 2560 คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2559 โดยปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มขยายตัวจากปีก่อน การลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นบานด้านคมนาคมขนาดใหญ่อยู่ในเกณฑ์สูงและเร่งขึ้น ระดับราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ การขยายตัวด้านการผลิตเกือบทุกสาขา ด้านสินค้าเกษตรและราคาสินค้าดีขึ้น รวมทั้งเสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมของไทยให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ข่าวเด่น