การตลาด
สกู๊ป : "ปตท." บูมค้าปลีก ชู 4 โมเดล เจาะ "กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย"


ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปตท.จะยกเลิกนำร้านเซเว่นเข้ามาเปิดให้บริการภายในปั้มน้ำมันหลังจากครบสัญญาที่เหลืออีก 6 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนคนไทย  ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวออกมาก็สร้างความฮือฮาให้กับวงการค้าปลีกและผู้บริโภคที่เข้าไปใช้บริการภายในปั้มน้ำมัน ปตท.พอสมควร โดยความคิดเห็นที่แสดงกันออกมาผ่านสื่อโซเชียลมีเดียก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่ ปตท. จะยกเลิกนำร้านเซเว่นเอีเลฟเว่นข้ามาเปิดให้บริการ

 

หลังจากมีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อออนไลน์ไปไม่กี่ชั่วโมง ทางผู้บริหารปตท. ก็ทำหนังสือออกมายืนยันผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊ค PTT New  ว่ายังคงร่วมดำเนินธุรกิจกับร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น ต่อไป เนื่องจากเป็นพันธมิตรทางธุรกิจมาอย่างยาวนาน  เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน  โดยในส่วนของคำชี้แจงดังกล่าว นายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ออกมาเปิดเผยว่า ปตท. ยืนยันเดินหน้าธุรกิจค้าปลีกในประเทศด้วยการจับมือกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดให้บริการในสถานีบริการ ปตท. ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนาน โดยปัจจุบันมีร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดให้บริการในสถานีบริการ ปตท. แล้วกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ และยังคงมีแผนงานที่จะร่วมกันขยายให้มีจำนวนรวมกว่า 1,700 แห่ง ในอีก 4-5 ปีนี้

ขณะเดียวกัน ในฝั่งบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด(มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่นก็ออกมาทำหนังสือยืนยันเช่นกันว่า ยังคงเดินหน้าขยายสาขาภายในปั้มน้ำมัน ปตท. ต่อเนื่อง เพราะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันมายาวนานถึง 15 ปี โดย นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท  ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ออกมา เปิดเผยว่า ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทยได้ร่วมมือทางธุรกิจกับปตท.มาอย่างเหนียวแน่นยาวนานตั้งแต่ปี 2545  รวมแล้วกว่า 15 ปี ด้วยการคัดสรรสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและสังคมจนเป็นที่ยอมรับของคนไทยทั่วประเทศและในโอกาสที่ทั้งสององค์กรอยู่ระหว่างการขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง ก็จะยังคงรักษาความเป็นพันธมิตรที่ดีเพื่อเดินหน้าให้บริการแก่ประชาชนทั่วประเทศไปพร้อมๆกัน 

แม้ว่าจะมีการชี้แจงออกมาจากทั้ง 2 ฝั่งแต่ก็ยังมีบางคนตั้งคำถามว่า แล้วหลังจากปีที่ 5  ต่อเนื่องปีที่ 6 จะเป็นอย่างไร ปตท.จะยังต่อสัญญาณให้กับร้านเซเว่นอีเลฟเว่นหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบัน ปตท.มีร้านจิฟฟี่ที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ในมือ ซึ่งการต่อหรือไม่ต่อมีความเป็นไปได้ทั้งหมด  เพราะทั้ง 2 ความเป็นไปได้มันเป็นเรื่องของอนาคต  แต่สิ่งที่เป็นไปได้ในขณะนี้ คือ การขยายธุรกิจค้าปลีกภายในปั้มน้ำมันของ ปตท. เนื่องจากปัจจุบันผลกำไรที่ได้มาจากการบริหารพื้นที่ค้าปลีกมีอัตราส่วนสูงกว่าการขายน้ำมัน  

ด้วยเหตุนี้ ปตท.จึงออกมารุกธุรกิจค้าปลีกเต็มสูบควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจปั้มน้ำมัน  ซึ่งปัจจุบันมีการแบ่งโมเดลในการดำเนินธุรกิจออกเป็น 4 รูปแบบ  ประกอบด้วย  

รูปแบบที่ 1 ปั้มปตท.ขนาดใหญ่ที่สุดใช้พื้นที่ในการก่อสร้างกว่า 10 ไร่ ภายในปั้มจะมีร้านค้าปลีกเข้าไปเปิดให้บริการประมาณ 10 แบรนด์  ไม่นับรวมร้านค้ารายย่อยจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะเข้ามาเช่าพื้นที่เปิดซุ้มขายสินค้าภายในปั้ม

ส่วนรูปแบบที่ 2.จะเป็นปั้ม ปตท.ขนาดใหญ่ใช้พื้นที่ในการก่อสร้างประมาณ 6-7 ไร่ มีร้านค้าปลีกเปิดให้บริการประมาณ 5 แบรนด์  ไม่นับรวมร้านค้ารายย่อยจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะเข้ามาเช่าพื้นที่เปิดซุ้มขายสินค้าภายในปั้ม 

รูปแบบที่ 3 คือปั้ม ปตท.ขนาดกลาง ใช้พื้นที่ในการก่อสร้างประมาณ 3-5 ไร่ มีร้านค้าปลีกเปิดให้บริการ 2-3 แบรนด์ ไม่นับรวมร้านค้ารายย่อยจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะเข้ามาเช่าพื้นที่เปิดซุ้มขายสินค้าภายในปั้ม 

และรูปแบบที่ 4 ปั้มปตท.ขนาดเล็ก หรือคอมแพ็คโมเดล ใช้พื้นที่ในการก่อสร้างประมาณ 1-2 ไร่ มีร้านค้าปลีกเปิดให้บริการประมาณ 1-2 แบรนด์ ไม่นับรวมร้านค้ารายย่อยจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะเข้ามาเช่าพื้นที่เปิดซุ้มขายสินค้าภายในปั้ม

นายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า รูปแบบปั้มที่บริษัทจะให้ความสำคัญในการขยายสาขาปีนี้ คือ คอมแพ็คโมเดล เนื่องจากเป็นขนาดที่สามารถเข้าถึงชุมชนได้เป็นอย่างดี เพราะมีขนาดพื้นที่เล็ก  ภายในปั้มจะมีร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เปิดให้บริการประมาณ 2 แบรนด์ คือ ร้านคาเฟ่อเมซอน และร้านเซเว่นอีเลฟเว่น นอกจากนี้ อาจมีร้านค้าปลีกขนาดเล็กเปิดให้บริการประมาณ 1 ร้าน

ปัจจุบัน ปตท. ได้มีการเปิดให้บริการปั้มน้ำมันรูปแบบคอมแพ็คโมเดลไปตามชุมชนต่างๆแล้วกว่า 10 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาที่เปิดให้บริการไปได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี  เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป  คือ นิยมความสะดวกสบายมากขึ้น  ซึ่งปั้ม ปตท.สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้  ทั้งการบริการน้ำมันและร้านค้าปลีก รวมไปถึงร้านกาแฟ  จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวทำให้ ปตท. มีแผนจะเปิดปั้มในรูปแบบคอมแพ็คโมเดลเพิ่มขึ้น  โดยในส่วนของปีนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณ 50 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 15-18 ล้านบาท

นอกจากจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ค้าปลีกภายในปั้มน้ำมันแล้ว  ในอนาคต  ปตท.ยังมีแผนที่จะจับมือร่วมกับพันธมิตรในการนำโรงแรมในรูปแบบบัดเจ็ดโฮเทลเข้ามาเปิดให้บริการภายในพื้นที่ของปั้มน้ำมันขนาดใหญ่ที่ตั้งบนถนนสายหลักของประเทศ เพื่อรองรับกลุ่มนักเดินทาง ซึ่งเบื้องต้นได้วางจำนวนห้องพักที่จะเปิดให้บริการไว้ที่ประมาณ 70 ห้อง ส่วนราคาห้องพักคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 700 บาทต่อคืน

ขณะเดียวกัน  ยังมีแผนที่จะสร้างจุดพักรถ (เรสท์ แอเรีย) ใกล้กับมอเตอร์เวย์ เส้นทางกรุงเทพ-ชลบุรี บนพื้นที่  50 ไร่ ห่างจากจุดพักรถปัจจุบันไปประมาณ 50 .. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นประมูลกับกรมทางหลวง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ 

เดินหน้าขยายธุรกิจนอนออยล์ขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจว่ากำไรจากการบริหารพื้นที่ค้าปลีกถึงมากกว่าน้ำมัน


บันทึกโดย : วันที่ : 25 ส.ค. 2560 เวลา : 17:40:26
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 6:58 pm