ปากีสถานได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ปากีสถาน ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 21 - 23 สิงหาคม 2560 ณ กรุงอิสลามาบัด เน้นการเปิดตลาดสินค้า ตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาความตกลงการค้าเสรีซึ่งเริ่มเมื่อปี 2558 ให้เสร็จโดยเร็วภายในปีนี้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หัวหน้าผู้แทนไทยในการเจรจา FTA ไทย-ปากีสถาน ครั้งที่ 8 เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า ในการเจรจารอบนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาข้อสรุปเบื้องต้นเรื่องรูปแบบการลดภาษีระหว่างกันได้ ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญ โดยหลังจากนี้ทั้งสองฝ่ายจะกลับไปจัดทำข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้าตามรูปแบบที่ตกลงกัน เพื่อใช้แลกเปลี่ยนและเจรจากันในรายละเอียดในรอบต่อไป ทั้งสองประเทศยังได้หารือกันเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้าเฉพาะรายสินค้าที่จะเป็นเงื่อนไขของการให้สิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี ตลอดจนแนวทางการลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี เพื่อให้การค้าระหว่างกันมีความคล่องตัวมากขึ้น เมื่ออุปสรรคทางภาษีหมดไป โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพการเจรจารอบต่อไปในเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่กรุงเทพฯ
นางอรมน กล่าวว่า การจัดทำ FTA คาดว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการค้าและการลงทุนของทั้งสองฝ่าย ช่วยขจัดอุปสรรคทางการค้าทั้งในรูปแบบภาษีและไม่ใช่ภาษี และเพิ่มโอกาสที่ไทยจะส่งออกสินค้า และนำเข้าสินค้าโดยเฉพาะวัตถุดิบจากปากีสถานซึ่งยังมีทรัพยากรที่สมบูรณ์และมีค่าเป็นจำนวนมาก ปากีสถานจึงถือเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจสำหรับไทย โดยผู้บริโภคปากีสถานมีมุมมองว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ดังนั้นผู้ส่งออกไทยจึงน่าจะมีโอกาสในการขยายตลาดสู่ปากีสถาน โดยเฉพาะในสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ เช่น สินค้าเกษตรและอาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้ ปากีสถานเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้รองจากอินเดีย ปากีสถานเป็นตลาดใหญ่ มีประชากรกว่า 200 ล้านคน และมีนโยบายเปิดเสรีมากขึ้นเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายมองตะวันออก (Look East Policy) ที่ต้องการส่งเสริมและขยายความสัมพันธ์กับประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในปี 2559 ปากีสถานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 38 ของไทยโดยทั้งสองฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวมระหว่างกัน 1,134 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 9.8 โดยการส่งออกมีมูลค่า 1,015 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้ามีมูลค่า 119 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปปากีสถาน เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก และสินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากปากีสถาน เช่น เส้นด้าย เส้นใย สัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
ข่าวเด่น