นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 60 (ต.ค.59-ก.ค.60) โดยระบุว่า รับบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้นจำนวน 2,514,229 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วจำนวน 81,381 ล้านบาท (คิดเป็น 3.3%)
ประกอบด้วย รายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 2,329,256 ล้านบาท คิดเป็น 79.7% ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย (2,923,000 ล้านบาท) สูงกว่าชjวงเดียวกันปีที่แล้ว 4.6% และรายจ่ายจากงบประมาณปีก่อนจำนวน 184,973 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 10.2%
สำหรับรายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 2,329,256 ล้านบาท ประกอบด้วยรายจ่ายประจำจำนวน 2,030,032 ล้านบาท (คิดเป็น 86.7% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอนเปลี่ยนแปลงจำนวน 2,340,449 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.6% และรายจ่ายลงทุนจำนวน 299,224 ล้านบาท (คิดเป็น 51.4% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลงจำนวน 582,551 ล้านบาท) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.3%
“การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วงครึ่งแรกของปี 60 ที่ขยายตัวได้ถึง 3.5% ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงที่เหลือ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายกฤษฎา กล่าว
ในส่วนดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุลจำนวน 634,562 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณจำนวน 610,176 ล้านบาท ในขณะที่เงินนอกงบประมาณขาดดุลจำนวน 24,386 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ จำนวน 40,000 ล้านบาท และรายรับจากการชดใช้เงินคงคลังจำนวน 27,078 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลได้บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินโดยการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 451,681 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล) ขาดดุลเท่ากับจำนวน 182,881 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ค.60 มีจำนวนทั้งสิ้น 258,419 ล้านบาท
ขณะที่รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้นจำนวน 1,904,053 ล้านบาท เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยรายได้นำส่งคลังต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วจำนวน 60,214 ล้านบาท (คิดเป็น 3.1%) เนื่องจากปีที่แล้วมีการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 และ 1800 MHz (4G) จำนวน 56,273 ล้านบาท การชำระภาษีการพนันในส่วนของสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 11,982 ล้านบาท และการนำส่งเงินสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียนจำนวน 10,634 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมรายได้พิเศษดังกล่าว รายได้นำส่งคลังปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนจำนวน 18,675 ล้านบาท
ข่าวเด่น