กองทุนรวม
บลจ.กรุงศรี คัดกองทุนหลักห้าดาวสำหรับกองทุนหุ้นอินเดีย ตอบรับเศรษฐกิจโตติดอันดับโลก


บลจ.กรุงศรี เปิดกองทุนใหม่ กรุงศรีอินเดียอิควิตี้ (KF-INDIA) ชูจุดเด่นกองทุนหลักจัดตั้งมานาน และมีประวัติผลการดำเนินงานที่ดี บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนหุ้นอินเดียชั้นนำที่ได้รับรางวัลจากหลายสถาบัน รองรับยุคทองของการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียที่สูงติดอันดับโลก จากปัจจัยหนุนต่อเนื่องทั้งนโยบายการปฎิรูปของภาครัฐและโครงสร้างประชากรที่สร้างกำลังซื้อแข็งแกร่ง

 

 

 

..ศิริพร  สินาเจริญ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่าบลจ.กรุงศรี เล็งเห็นถึงศักยภาพที่แข็งแกร่ง และโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย จึงเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอินเดียอิควิตี้ (KF-INDIA) ที่ลงทุนในกองทุนหลัก First State Indian Subcontinent Fund  ซึ่งได้รับ Morningstar Rating 5 ดาว 31 .. 60 (ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมจัดการลงทุนแต่อย่างใด) บริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุนหุ้นอินเดียชั้นนำในอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญการคัดเลือกหลักทรัพย์คุณภาพสูงที่มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนเหนือกว่าตลาดในระยะยาว  กองทุนหลักมีสไตล์การลงทุนที่เน้นความยั่งยืน ไม่หวือหวา ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนในระยะยาว การรักษาเงินต้น  และการสร้างการเติบโตของเงินลงทุน  ตัวอย่างธุรกิจที่ผู้จัดการกองทุนให้ความสนใจลงทุน  เช่น บริษัทที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค  บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน   ธนาคารภาคเอกชนและบริษัทเงินทุนชั้นนำในอินเดีย  เป็นต้น 

กองทุนหลักมีผลตอบแทนที่แข็งแกร่งเหนือดัชนีชี้วัด โดยสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 17.3%   เทียบกับดัชนีชี้วัด 4.3% ผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีคือ 21.6% ดัชนีชี้วัดอยู่ที่ 9% และผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีคือ 14.1% ดัชนีชี้วัดอยู่ที่ 3.1%” (ข้อมูล : First State Investments    30 มิ.. 60 / ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต)”   

บลจ.กรุงศรี มีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย  เนื่องจากอินเดียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงติดอันดับโลก  เฉลี่ยประมาณ 7.5% ต่อปี ส่งผลให้อินเดียกลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศ G20  โดยมีปัจจัยสนับสนุนในหลายด้าน ทั้งในส่วนของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย  การขาดดุลการค้าและงบประมาณของอินเดียมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งระดับเงินเฟ้อได้ปรับตัวลดลงอยู่ในระดับต่ำ ภายใต้ภาวะดอกเบี้ยที่มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ การเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายโมดิ ทำให้การเมืองที่เคยอ่อนแอของอินเดียกลับมามีเสถียรภาพสูง  รวมทั้งนโยบายการปฎิรูปที่โดดเด่นของนายกรัฐมนตรีโมดิที่ประกาศใช้มาตรการต่างๆ  ซึ่งก่อให้เกิดการพลิกโฉมทางเศรษฐกิจของอินเดีย ส่งผลให้ระดับความสามารถทางการแข่งขันของอินเดียปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก ตัวอย่างมาตรการที่โดดเด่น อาทิ  การเปลี่ยนแปลงระบบจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST) ให้เป็นระบบเดียวกันทั่วประเทศเพื่อลดความซับซ้อน  การพัฒนาระบบฐานข้อมูลชีวภาพของประชากรในประเทศที่กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคการเงินในประเทศ  เป็นต้น   

 

ปัจจัยด้านประชากรของอินเดียก็มีความได้เปรียบจากการที่มีจำนวนประชากรสูง โดยอายุเฉลี่ยของประชากรอยู่ที่ 27 ปี แสดงให้เห็นถึงจำนวนประชากรในวัยทำงานที่มีจำนวนมาก ถือเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ระบบเศรษฐกิจอินเดียเติบโตอย่างต่อเนื่อง  มีการคาดการณ์ว่าประชากรของอินเดียจะเติบโตแซงหน้าจีนภายในปี 2025  อีกทั้ง การพัฒนาเข้าสู่สังคมเมืองของชนชั้นกลางในอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และโครงสร้างฐานรายได้ของประชากรมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อให้เกิดการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่ง  นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการเติบโตของกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มดีกว่าประเทศในภูมิภาค  และมีแนวโน้มที่อินเดียจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจภายในปี 2050 และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่ายุโรปและสหรัฐอีกด้วย

บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่า กองทุน KF-INDIA  จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการกระจายการลงทุนไปในตลาดที่มีศักยภาพเติบโต เพื่อแสวงหาผลตอบแทนรวมที่สูงขึ้นในระยะยาว..ศิริพร กล่าว

กองทุน KF-INDIA  มีนโยบายลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ First State Indian Subcontinent Fund (Class III USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6 : เสี่ยงสูง 

และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยการตัดสินใจของผู้จัดการนักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com  หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา 

ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

กองทุน KF-INDIA มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ กองทุน First State Indian Subcontinent Fund (Class III USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80.00 ของ NAV โดยกองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนหรือซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในอนุทวีปอินเดีย ได้แก่ ประเทศอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา และ บังคลาเทศ ดังนั้นกองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และ/หรือการเมืองในประเทศซึ่งกองทุนหลักได้ลงทุน 

กองทุนอาจทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมฯ โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และในกรณีที่ไม่ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงฯ ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ 

กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลัก อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน ทำให้กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลัก อาจมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงได้สูงกว่าผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนรวมเมื่อมีความเข้าใจในความเสี่ยงของสัญญาฯ โดยคำนึงถึงประสบการณ์การลงทุน วัตถุประสงค์การลงทุน และฐานะการเงินของผู้ลงทุนเอง 

กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลักอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non–Investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วนหรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการจัดการ 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ก.ย. 2560 เวลา : 16:23:51
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 9:40 am