โดยจะเห็นได้จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับธุรกรรมการโอนเงินรายย่อยของประชาชน ล่าสุด สิ้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยพบว่า มีจำนวนธุรกรรมการโอนเงินรายย่อยของประชาชนทั้งสิ้น 4,156,129 รายการ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 8.2% คิดเป็นมูลค่าการโอนเงินทั้งสิ้น 253,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 7.5% โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากการโอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสะดวกสบายมากขึ้น
ทั้งนี้หากแยกเป็นรายการย่อย พบว่า เป็นการโอนเพื่อการซื้อสินค้า และบริการ จำนวนทั้งสิ้น 2,038,422 รายการเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 16.4% คิดเป็นมูลค่าการโอนเงินทั้งสิ้น 171,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 10.2% ตามการซื้อของด้วยระบบอี-คอมเมิร์ซที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่เสียค่าธรรมเนียมในการโอนต่ำลง และไม่เสียเลยหากเป็นการโอนที่ต่ำกว่า 5,000 บาท ขณะที่การโอนระหว่างประชาชนเพื่อเหตุผลอื่นๆ มีจำนวนรายการมากเป็นอันดับที่ 2 ทั้งสิ้น 958,345 รายการเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 0.6% โดยมีมูลค่าวงเงินการโอนทั้งสิ้น 34,480 รายการ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนทั้งสิ้น 17.2%
ขณะที่การโอนเงินรายย่อยเพื่อจ่ายเงินปันผลในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมามี 298,645 รายการ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 7.1% คิดเป็นมูลค่าการโอนเงินทั้งสิ้น 8,180 ล้านบาท ส่วนการโอนเงินรายย่อยเพื่อการจ่ายเงินเดือนมีทั้งสิ้น 860,717 รายการ เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนเพียง 0.3% แต่เมื่อคิดเป็นมูลค่าเงิน สัดส่วนการโอนรายย่อยเพื่อการจ่ายเงินเดือนลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อน 9.2% โดยมีมูลค่าการโอนเงินทั้งสิ้น 39,550 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากคิดยอดการโอนเงินรายย่อยในรอบ 8 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งในส่วนของรายการการโอนเงิน และมูลค่าการโอนเงิน โดย ณ สิ้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมามียอดการโอนเงินเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน ม.ค.ทั้งสิ้น 289,796 รายการ หรือเพิ่มขึ้น 7.5% และมีมูลค่าการโอนเงินรายย่อยของประชาชนเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 17,430 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.4%.
ข่าวเด่น