ภายหลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 42/2560 เรื่องแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางสัญชาติไทยระบุว่า คสช.เห็นว่าบทบัญญัติมาตรา 18 วรรคสองแห่งพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ที่บัญญัติให้บุคคลทุกคน ซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรต้องยื่นรายการตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวงเป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้มีสัญชาติไทยเกินสมควร
เนื่องจากปัจจุบันการจัดเก็บและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีสัญชาติไทยมีความเป็นระบบแล้ว การกำหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรต้องยื่นรายการดังกล่าว (แบบตม.6) จึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป และสมควรแก้ไขพ.ร.บ.คนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนชาวไทยในการเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยกำหนดให้เฉพาะคนต่างด้าวเท่านั้นที่จะต้องยื่นรายการดังกล่าวเพื่อประโยชน์ต่อความมั่นคงและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่อไป
ซึ่งพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานว่า หลังจากประกาศดังกล่าวออกไป ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจ เพราะช่วยลดความยุ่งยากในการเดินทางและได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)ปรับปรุงและพัฒนาการบริการให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เดินทางทั้งชาวไทยและต่างประเทศยอมรับและประทับใจ
ด้าน พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) เปิดเผย ในส่วนของชาวต่างชาติ สตม. ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของบัตรให้มีความเหมาะสมมากขึ้น โดยจะเริ่มใช้บัตร ตม.6 แบบใหม่ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ และสำหรับการแก้ปัญหา ผู้โดยสารหนาแน่น ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง จะมีการปรับปรุงเพิ่มขยายพื้นที่บริการ ผู้โดยสาร และช่องตรวจ ตม. ทำให้มีเคาน์เตอร์บริการผู้โดยสารเพิ่มจาก 21 ช่องตรวจ เป็น 35 ช่องตรวจ และช่องตรวจอัตโนมัติอีก 4 ช่องตรวจ เพิ่มพื้นที่พักคอยพร้อมจัดเจ้าหน้าที่ ตม.จากด่านอื่นๆ มาเสริม ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันนิตยสารท่องเที่ยวคอนเด นาสต์ ทราเวลเลอร์ สัญชาติอังกฤษ เปิดเผยอันดับประเทศน่าท่องเที่ยวที่สุดประจำปี 2017 โดยไทยติดอันดับ 8 เมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก และเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียไทยคว้าอันดับ 1 ไปครองแซงหน้าอินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และญี่ปุ่น ซึ่งอันดับของไทยในปี 2017 ขยับขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ที่อันดับ 9 โดยไทยติด 1 ใน 10 ประเทศ ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลกมานับตั้งแต่ปี 2015
ส่วน 10 ประเทศท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลกนั้นคือ อิตาลี คว้าอันดับที่ 1 ติดต่อกันมานับตั้งแต่ปี 2010 ตามด้วย กรีซ สหรัฐ ฝรั่งเศส สเปน แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย โดยอินเดียและแคนาดาติดอันดับที่ 9 และ 10
นอกจากนี้ เกาะสมุย ใน จ.สุราษฎร์ ธานี ยังติดอันดับเกาะที่เหมาะไป ท่องเที่ยวที่สุดอันดับ 5 จากการโหวตของผู้อ่านนิตยสารทั่วโลก โดยอันดับของเกาะสมุยเพิ่มขึ้นมาจากปี 2016 อยู่ที่อันดับ 8
ข่าวเด่น