นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย.ได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีทุน (พีจีเอส ระยะที่ 6) มั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ และการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งจะร่วมกันปล่อยและค้ำประกันสินเชื่อตลอดโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท ช่วยให้เอสเอ็มอีได้รับสินเชื่อรวมกว่า 27,000 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน 136,000 ล้านบาท มีการจ้างงานเพิ่ม 108,000 คน สร้างเงินทุนหมุนเวียนในระบบกว่า 371,000 ล้านบาท”
นอกจากนี้บสย. กำลังหารือ เพื่อสร้างรูปแบบการค้ำประกันสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) หลังจากที่ครม.อนุมัติให้ขยายการค้ำประกันสินเชื่อให้กับนอนแบงก์ได้ โดยเบื้องต้น คาดว่าจะนำร่องร่วมกับ ลีสซิ่งและแฟคตอริ่งเครือกสิกรไทย ในการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ วงเงินเริ่มต้น 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นในกลุ่มลีสซิ่งเครื่องจักร ที่คาดว่าน่าจะเริ่มต้นปล่อยสินเชื่อได้ในปีหน้า นอกจากนี้ยังหารือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. ) ที่มีความสนใจเช่นกัน
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ร่วมกับบสย.สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีทวีทุน (พีจีเอส ระยะที่ 6) เพื่อช่วยด้นเงินทุนหมุนเวียน และขยายกิจการแก่กลุ่มธุรกิจนำเข้า-ส่งออก และธุรกิจท่องเที่ยว โดยตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ใน 2 กลุ่มนี้ 1,500 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มธุรกิจนำเข้า-ส่งออกนั้น ให้วงเงินสูงสุด 60 ล้านบาท ไม่ต้องมีหลักประกัน บสย. ค้ำประกันสูงสุด 40 ล้านบาท พร้อมเพิ่มวงเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวนั้น จะสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง หรือลงทุนขยายกิจการ สูงสุด 3.3 เท่าของมูลค่าหลักประกันให้แก่ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ธุรกิจนำเที่ยว บริการสปา โดยบสย.ค้ำประกันเพิ่มสูงสุด 40 ล้านบาท พร้อมเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินผ่านเครื่องรูดบัตร รับชำระเงินผ่านบริการเค พลัส ชอป ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน บสย. 1.75% ใน 4 ปีแรก
ข่าวเด่น