หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการดำเนินธุรกิจค้าปลีกหลากหลายรูปแบบ ล่าสุดบริษัท ทีซีซีแลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ก็ออกมาประกาศแผนโรดแมป 3 ปีด้วยการใช้งบกว่า 20,000 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจค้าปลีกในเครือ เพื่อให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันบริษัท ทีซีซีแลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด มีแบรนด์ธุรกิจค้าปลีกในเครือประกอบด้วย โครงการเอเชียทีค เดอะ ริวเอร์ฟร้อน ศูนย์การค้าเกตเวย์ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ศูนย์การค้าพันธุทิพย์ โครงการตะวันนา มาร์เก็ต และแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดที่จะเปิดให้บริการในปี 2561 คือ ศูนย์การค้าอเวนิว
นายณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท ทีซีซีแลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด กล่าวว่า การที่บริษัทออกมาใช้งบลงทุนมากกว่า 20,000 ล้านบาทในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการค้าปลีกในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทมีโมเดลธุรกิจที่หลากหลายเริ่มตั้งแต่ตลาดชุมชนไปจนถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ จึงทำให้ผสานความลงตัวระหว่างผู้เช่ารายใหญ่และผู้เช่ารายย่อยรายเป็นอย่างดี และสามารถดึงดูดความสนใจของคนได้อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เจริญกรุงนั้น ทีซีซีแลนด์ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการส่วนต่อขยายทั้งในส่วนของโรงแรมบนเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ และส่วนต่อขยายของศูนย์การค้าบนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ โดยจะใช้งบประมาณในการพัฒนาทั้ง 2 ส่วน ภายใต้งบประมาณการลงทุน 6,000 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2563
สำหรับแผนการขยายโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ไปยังต่างจังหวัดนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวางแผน ออกแบบ และพัฒนาโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เชียงใหม่และโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ พัทยา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในอีก 3-4 ปีข้างหน้านับจากนี้ โดยแต่ละโครงการคาดว่าจะใช้งบในการพัฒนาประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งรูปแบบของโครงการจะเน้นความเป็น ‘ไลฟ์สไตล์ แอนด์ เฟสติวัล มาร์เก็ต (Lifestyle and Festival market)’ ที่จะประยุกต์ให้เข้ากับประวัติศาสตร์ของแต่ละพื้นที่อย่างลงตัว
นายนภัทร กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทได้เริ่มนำเสนอพื้นที่ในโครงการส่วนต่อขยายให้แก่กลุ่มผู้เช่าแบรนด์ดังไปบ้างแล้ว เช่น กลุ่มโชว์และกลุ่มเครื่องเล่น, กลุ่มผู้ประกอบการที่มีโรงงานผลิตที่เป็นกลุ่มสินค้าที่นักท่องเที่ยวต้องการ ซึ่งทั้งโครงการเชียงใหม่และพัทยาจะเจาะไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยซึ่งมีสัดส่วน 80% และที่เหลืออีก 20% คือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่ภายในจังหวัดนั้นๆ
ส่วนแผนการพัฒนาศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์ ‘เกตเวย์’ นั้น ในปี 2561 นี้ ทีซีซีแลนด์ มีแผนจะเปิดตัวศูนย์การค้าเกตเวย์ บางซื่อมูลค่า 2,500 ล้านบาทอย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบันมีแบรนด์หลักชั้นนำดำเนินการเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่หมดแล้วโดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 40% จากพื้นที่โดยรวม 40,000 ตารางเมตร และกำลังอยู่ระหว่างการขายพื้นที่ให้แก่ผู้เช่ารายย่อยซึ่งคาดว่าจะสามารถปล่อยเช่าได้หมดภายในกลางปี 2561
นอกจากนี้ ยังจะดำเนินการเปิดตัวศูนย์การค้าเกตเวย์ในย่านฝั่งธนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่งภายใต้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท โดยมีพื้นที่ปล่อยเช่ากว่า 33,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนในย่านดังกล่าวที่มีภาพรวมความต้องการในแบบ one stop service ใกล้เคียงกับย่านเอกมัยและบางซื่อ
นายนภัทร กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งความสำเร็จของบริษัทคือ ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ที่ปัจจุบันมีจำนวนทราฟฟิคเพิ่มสูงถึง 60,000 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 100% จากช่วงก่อนปรับโฉม เนื่องจากมีการปรับพื้นที่ทั้งภายในและบริเวณรอบอาคารศูนย์การค้าฯ ให้เป็นทางเลือกใหม่ที่มีศักยภาพสูงกลางสยามสแควร์ เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับศูนย์การค้าพันธุทิพย์ ทีซีซี ได้มีการต่อยอดความแข็งแกร่งออกมาเป็น 3 มิติ ประกอบด้วย ด้านเกมมิ่ง, ด้านโซลูชั่น และด้านไลฟ์สไตล์ไอที โดยขณะนี้ได้ดำเนินการปรับโฉมพร้อมเปิดตัวไปแล้ว 2 สาขาคือ ประตูน้ำและเชียงใหม่ ส่วนสาขางามวงศ์วานและบางกะปิอยู่ระหว่างการปรับโฉมและกำลังจะนำเกมมิ่งเข้าไปเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เนื่องจากในย่านดังกล่าวไม่มีศูนย์การค้าที่สามารถเติมเต็มในด้านดังกล่าวเลย
นอกจากนี้ ทีซีซี ยังได้มีการยกระดับโครงการตลาดนัดตะวันนา บางกะปิ ด้วยการเปลี่ยนแบรนด์ให้กลายเป็น ‘ตะวันนา มาร์เก็ต’ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นตลาดชุมชนที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง สร้างมาตรฐานการบริการใหม่ และเป็นตลาดชุมชนที่มีแบรนด์หลักชั้นนำเช่นเดียวกับในศูนย์การค้าหรือคอมมิวนิตี้มอลล์ เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต, แฟชั่นเสื้อผ้ารายใหญ่, โรงภาพยนตร์, มีศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่ เป็นต้น
หลังจากรีแบรนด์โครงการตะวันนา มาร์เก็ต เรียบร้อย ทีซีซีแลนด์ ก็มีแผนที่จะดำเนินการพัฒนาโครงการตะวันนา มาร์เก็ตพร้อมกัน 3 ทำเล ประกอบด้วย ย่านบางพลี บนที่ดิน 50 ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท, ย่านพระราม 2 บนที่ดิน 35 ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท และย่านฝั่งธน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดิน 10 ไร่ ใช้เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจค้าปลีกแบรนด์เก่าๆแล้ว ประมาณไตรมาส 1 ปี 2561 ทีซีซีแลนด์ ก็มีแผนที่จะเปิดตัวศูนย์การค้าแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ ‘อเวนิว (Avenue)’ ประเดิมสาขาแรกที่จะเปิดให้บริการ คือ ซอยลาซาล ภายในศูนย์การค้าจะมีทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร และบริการที่เข้าถึงได้ง่าย โดยหนึ่งไฮไลท์ของศูนย์ฯ คือการเปิดตัวร้านยูนิโคล่ โรดไซท์ (Uniqlo Road Site) แห่งแรกๆ ในไทย ซึ่งหลังดำเนินการเปิดสาขาแรกไป ทีซีซีแลนด์ ก็มีแผนลุยแบรนด์ อเวนิว ต่อทันทีภายในแผนโรดแมป 3 ปีนับจากนี้ หลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง ทีซีซีแลนด์คาดว่าว่าภายใน4 ปีนับจากนี้จะมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 4,800 ล้านบาท ส่วนภาพรวมสิ้นปี 2560 นี้คาดว่าจะปิดรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,300 ล้านบาท
พัฒนาแพลตฟอร์มศูนย์การค้าที่หลากหลายแบรนด์ขึ้นนั้น เกิดจากการเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันที่ต้องการแสวงหาความแตกต่าง ไม่จำเจ แต่ต้องตอบโจทย์ความต้องการได้โดยตรง จึงทำให้เกิด segmentation marketing ที่เน้นทำตลาดแบบเจาะกลุ่ม และเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน จะยิ่งทำให้สามารถกำหนดทิศทางธุรกิจได้เฉียบคมยิ่งขึ้น และทุกครั้งที่เรามีที่ดินที่พร้อมจะพัฒนา บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่า เราเป็น “The Most Diversify Developer” เนื่องจากเราสามารถเลือกแบรนด์ที่เหมาะสมเข้าไปใส่ได้ทันทีและปรับให้ตรงความต้องการของคนในย่านดังกล่าวให้ดีและเหมาะสมที่สุด
“ประมาณไตรมาส 1 ปี 2561 บริษัทฯ จะเปิดตัวศูนย์การค้าแบรนด์ใหม่ ‘อเวนิว (Avenue)’ โดยสาขาแรกจะพัฒนาในย่านซอยลาซาล ที่มีทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร และบริการที่เข้าถึงได้ง่าย โดยหนึ่งไฮไลท์ของศูนย์ฯ คือการเปิดตัวร้านยูนิโคล่ โรดไซท์ (Uniqlo Road Site) แห่งแรกๆ ในไทย และวางแผนจะขยายการพัฒนาศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์อเวนิวอย่างต่อเนื่องไปตลอด 3 ปีนับจากนี้” นายณภัทร กล่าว
ข่าวเด่น