นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในการเปิดตัวกิจกรรม Village Tourism 4.0 ภายใต้โครงการ Village to the World 4.0 ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์กิจกรรมและส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น ขานรับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ของคนในชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวภายใต้โครงการพัฒนากลุ่มจังหวัด (แอ่งท่องเที่ยว) เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของชุมชนในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ผสมผสานกับผลิตภัณฑ์ทางภูมิปัญญาและการท่องเที่ยวแบบบูรณาการเพื่อก่อให้เกิดการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงซึ่งเป็นการสร้างทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยว และช่วยเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยภายในท้องถิ่น สร้างรายได้ และความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยมี บัวขาว บัญชาเมฆ, ริชชี่ อรเณศ, อ๊อฟ ศุภณัฐ, เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล และวงแฮมเมอร์ มาร่วมงานเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม
สำหรับ 10 ชุมชนต้นแบบจากทั่วประเทศ ได้แก่ ชุมชนปู่หมื่น ตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ , ชุมชนตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย, ชุมชนแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่, ชุมชนบ้านลำขนุน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง, ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรรักษ์เขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี, ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม บ้านแหลมมะขาม อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด, ชุมชนตำบลบ้านแหลม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี, ชุมชนตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี, ชุมชนตำบลสวาย อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์, ชุมชนบ้านสนวนนอก อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์
การดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ทั้งหมด 10 ชุมชนนั้น ได้เริ่มต้นที่ภาคเหนือ ในชุมชนปู่หมื่น ตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ในแนวคิด Life of tea ชุมชนแห่งการทำไร่ชาของชาวเขาเผ่าลาหู่ ซึ่งได้รับต้นชาสายพันธุ์อัสสัม พระราชทานต้นแรกจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส ดารานักแสดงทายาทรุ่นที่สามของ จะฟะ ไชยกอ ผู้นำชนเผ่าลาหู่ยุคบุกเบิก อาสานำทีมพาขึ้นดอยเรียนรู้วิถีชีวิติของชาวลาหู่ พาไปเก็บใบชาและทำชา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน นอกจากนี้ ริชชี่ยังพาขึ้นไปที่ชุมชนตำบลบ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นชุมชนที่รวม 5 ชนเผ่า ซึ่งคนในชุมชนล้วนมาจากภาคอีสานย้ายมาตั้งหลักปักฐานมากกว่า 60 ปี โดยเรียกตัวเองว่า ‘อีสานล้านนา’ มีเอกลักษณ์ทั้งเรื่องการแต่งกาย อาหารการกิน ผลไม้ท้องถิ่นอย่างเสาวรส ศิลปะการแสดงพื้นบ้าน รวมถึงวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำโขงในแนวคิด Harmonious Mekong สามารถปั่นจักรยานหรือนั่งรถอีต๊อกสัมผัสบรรยากาศริมแม่น้ำโขงได้
สำหรับภาคใต้ คือ ชุมชนแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ นำโดย อารี ประธาน นักร้องนำวงแฮมเมอร์ แนวเพลงเพื่อชีวิตในสำเนียงปักษ์ใต้ พาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในแนวคิด Variety for all นั่งเรือประมงชมบรรยากาศทะเลใต้ ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา เรียนรู้การปลูกสาหร่ายพวงองุ่นกลางทะเล ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน และพาไปปลูกกล้วยไม้ป่า อย่างรองเท้านารี ซึ่งขึ้นอยู่ตามเขาหินปูน และที่พลาดไม่ได้คือข้าวคลุกกะปิใช้กะปิกุ้งตักของดีของฝากจากชุมชน ถัดจากกระบี่ ลงไปที่ชุมชนบ้านลำขนุน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ชมมโนราห์และการทำหนังตะลุง ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และไปชมทัศนียภาพที่สวยงามในแนวคิด Pure nature with the southern touch ที่น้ำตกสายรุ้ง และพายเรือคายัคในสายน้ำ 5 ลำคลอง
ส่วนภาคตะวันออก คือ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรรักษ์เขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี กับแนวคิด Gastro Paradiso สวรรค์ของนักกิน วรเชษฐ์ เอมเปีย หรือ เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล จะพาไปทัวร์สวนผลไม้ และนำผลไม้ต่างๆ มาแปรรูปเป็นอาหาร เช่น น้ำพริกระกำ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูเด็ดของจังหวัดจันทบุรี และชมน้ำตกเขาบายศรี ซึ่งมีประวัติทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าเล่าขานกันรุ่นสู่รุ่น นอกจากนั้น พาไปเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านป่าชายเลน ที่ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม บ้านแหลมมะขาม จังหวัดตราด ในแนวคิด Magical Mangroves ร่วมทำกิจกรรมล่องเรือเก็บหอยปากเป็ดและนำมาทำอาหารร่วมกับชาวบ้าน ทั้งนี้ ยังมีสินค้าท้องถิ่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสานงอบ การสลักไม้ และการทำชาใบขลู่หอม เป็นต้น
สำหรับภาคกลาง อ๊อฟ ศุภณัฐ จะพาล่องเรือตามรอยเสด็จประพาสต้น รัชกาลที่ 5 ในแนวคิด Royal Excursion ที่กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนตำบลบ้านแหลม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ล่องเรือชมบรรยากาศ แม่น้ำท่าจีน พร้อมรับประทานอาหารจานเด็ดซึ่งใช้ปลาม้าเป็นวัตถุดิบหลัก เรียนรู้วิธีการทำขนมชาววัง เปลี่ยนบรรยากาศจากแม่น้ำสู่ป่ากับชุมชนตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ตื่นเต้นไปกับฐานกิจกรรมในป่าทั้ง 37 ฐาน ในแนวคิด Living Forest เที่ยวป่าเชิงอนุรักษ์ และชมวิธีการแปรรูปผลตาลเป็นอาหาร ขนม และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการจักสานเปลไม้ไผ่ การทำผ้าขาวม้า และกำไลเถาวัลย์ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน
ปิดท้ายด้วยแดนอีสาน ที่ชุมชนตำบลสวาย อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นชุมชนแห่งอุตสาหกรรมผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบัวขาว บัญชาเมฆ พาทัวร์บ้านเกิด ไปดูวิธีการทอผ้าไหมแบบดั้งเดิม ในแนวคิด Weaving Town และกินอยู่แบบวิถีชีวิตชาวบ้านที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ท่ามกลางฝูงควายนับพันที่หาชมได้ยาก และพาไปดูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ที่ชุมชนบ้านสนวนนอก อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ กับแนวคิด Thai silk full circle ว่ากว่าจะเป็นผ้าไหมหนึ่งผืนมีขั้นตอนอย่างไร ทำไมผ้าไหมไทยถึงมีมูลค่าสูงและดังไปไกลระดับโลก
ทั้งหมดนี้ ททท. จะจัดนำสินค้าและบริการของทั้ง 10 ชุมชนออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 45 ณ อิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ฮอลล์ 3 - 4 ในวันที่ 2 - 5 พฤศจิกายน 2560 นี้ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tourismthailand.org/villagetourism
ข่าวเด่น