ยอดหนี้สาธารณะสิ้นสุดเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 6.27 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41.92 ต่อจีดีพี ขณะที่งบปี 2561 มีแผนก่อหนี้ใหม่ 5.8 แสนล้านบาท
นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือ สบน. เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้างสิ้นสุดเดือนสิงหาคม มีสัดส่วนร้อยละ 41.92 ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมที่ร้อยละ 41.83 คิดเป็นมูลค่า 6.27 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 49,800 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2560 หรือสิ้นเดือนกันยายน ระดับหนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะได้เบิกจ่ายงบประมาณแล้ว ในจำนวนนี้เป็นหนี้รัฐบาลมากถึง 4.86 ล้านล้านบาท ที่เหลือเป็นหนี้รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ
สำหรับ แผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2561 ที่จะเริ่ม 1 ตุลาคมนี้ มีกรอบวงเงินที่ 1.5 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ มีแผนก่อหนี้ใหม่ 5.8 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นหนี้เดิม 9.2 แสนล้านบาท และ หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่ต้องขออนุมัติ อีก 1.6 แสนล้านบาท
โดยหนี้ทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นหนี้ในประเทศ ส่วนหนี้ต่างประเทศตามแผนบริหารหนี้มีวงเงิน 1.8 แสนล้านบาทซึ่งลดลงเพราะการบริหารจัดการหนี้ในประเทศดีขึ้น ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ การบริหารหนี้จะ ปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างรอบคอบตามจังหวะที่เอื้ออำนวย และ ปรับโครงสร้างหนี้โดยขยายอายุเฉลี่ยของหนี้รัฐบาลให้ไม่เกิน 14 ปีจากปัจจุบันอยู่ที่ 11 ปีเพื่อลดความเสี่ยงการชำระหนี้
ข่าวเด่น