การตลาด
สกู๊ป "เมเจอร์" ประกาศเดินหน้าสร้างโรงหนังทุกจังหวัด บุกตลาดอำเภอ


แม้ว่าปัจจุบันโรงภาพยนตร์เมเจอร์จะเป็นผู้นำในธุรกิจโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย แต่ธุรกิจก็ยังเดินหน้าขยายอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศไทย หรือตลาดต่างประเทศ เห็นได้จากจำนวนสาขาใหม่ของโรงภาพยนตร์เมเจอร์ที่ยังขยายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของตลาดในประเทศก็เริ่มมีให้เห็นเข้าไปลุยตลาดจังหวัดเล็กๆ และระดับอำเภอมากขึ้น  ขณะที่ตลาดต่างประเทศก็เริ่มเห็นการขยายสาขาไปยังเมืองใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ  ควบคู่ไปกับการขยายสาขาเพิ่มในเมืองเดิมที่ประสบความสำเร็จมากแล้ว

 

 

 

แนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีโรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการทั่วประเทศครบ 1,000 โรง ในปี 2563 ปัจจุบัน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เปิดให้บริการธุรกิจหลายประเภท โดยธุรกิจโรงภาพยนตร์ถือเป็นธุรกิจหลัก ภายใต้แบรนด์ดำเนินการมากกว่า 10 แบรนด์ ประกอบด้วย เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์  ,อีจีวี ,  พารากอน ซีนีเพล็กซ์ , เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์,พาราไดซ์ ซีนีเพล็กซ์ ,เมกา ซีนีเพล็กซ์ ,หาดใหญ่ ซีนีเพล็กซ์ ,ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ,เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์ ,เอ็ม คอลเล็คชัน (ซีนีเพล็กซ์) ,พรอมานาด ซีนีเพล็กซ์ ,อีสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์ ,ไดอาน่า ซีนีเพล็กซ์ ,อยุธยาซิตี้พาร์ค ซีนีเพล็กซ์ ,บลูพอร์ต ซีนีเพล็กซ์ ,โคราช ซีนีเพล็กซ์ ,ซีคอน ซีนีเพล็กซ์  และเอ็มบาสซี ดิโพลแมทสกรีน โดย เอไอเอส ทำให้ปัจจุบัน กลุ่มเมเจอร์ มีโรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการทั้งสิ้นประมาณ 118 สาขา รวม  695 โรง จำนวน 161,937 ที่นั่ง โดยสาขาแรกตั้งอยู่ที่ปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร และสาขาล่าสุดอยู่ที่ ตลาดเทสโก้โลตัส สุโขทัย ในรูปแบบ อีจีวี

ส่วนตลาดต่างประเทศปัจจุบัน กลุ่มเมเจอร์  ได้เข้าไปขยายธุรกิจโรงภาพยนตร์แล้วใน 2 ประเทศ คือ  พนมเปญ ประเทศกัมพูชา  ด้วยการเข้าไปจับมือร่วมกับศูนย์การค้าอิออนมอลล์ เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์  และบลูโอ ริธึ่ม แอนด์ โบว์ล  ซึ่งในส่วนของโรงภาพยนตร์จะเป็นระบบดิจิทัล  7 โรง  และ 4DX 1  อีกหนึ่งประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจแล้วและได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี คือ  ลาว  โดยปัจจุบันกลุ่มเมเจอร์  ได้เข้าไปขยายธุรกิจโรงภาพยนตร์ภายใต้ชื่อ เมเจอร์ แพลทินัม ซีนีเพล็กซ์  ร่วมกับหัวเว่ย  และห้างสรรพสินค้าเวียงจันทน์ เซ็นเตอร์  ซึ่งในส่วนของโรงภาพยนตร์จะเป็นระบบดิจิทัล 5 โรง  อีกหนึ่งสาขาในประเทศลาว คือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ปากเซ ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเฟรนชิปมอลล์ ปากเซ  มีโรงภาพยนตร์ระบบดิจิทัลจำนวน  4 โรง

 

 

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า  เป้าหมายในการทำธุรกิจของบริษัทในเบื้องต้น คือ ต้องการจะมีโรงภาพยนตร์เปิดให้ครบ 1,000 โรงในปี 2563  ซึ่งตอนนี้ก็ทำได้เกินครึ่งทางแล้ว คาดว่าสิ้นปี 2563 น่าจะขยายจำนวนโรงภาพยนตร์ได้ครบตรงตามเป้าหมายที่วางไว้  และเพื่อให้โรงภาพยนตร์เข้าไปใกล้ชิดกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น  โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างจังหวัด บริษัทจึงมีแผนที่จะขยายโรงภาพยนตร์เข้าไปในจังหวัดขนาดเล็ก และอำเภอต่างๆ ที่มีศักยภาพ  ซึ่งหลังจากทดลองเข้าไปเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ในอำเภอต่างๆ จำนวน 10 อำเภอในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี 

ดังนั้นในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ กลุ่มเมเจอร์  จึงมีแผนที่จะขยายโรงภาพยนตร์เข้าไปในจังหวัดขนาดเล็กและอำเภอต่างๆ อีกไม่ต่ำกว่า 10 สาขา รวมประมาณ 30 โรง  ซึ่งแต่ละสาขาที่ไปจะไปกับพันธมิตรทางธุรกิจในรูปแบบของห้างค้าปลีก  ส่วนจำนวนโรงภาพยนตร์ที่จะนำเข้าไปเปิดให้บริการในแต่ละสาขาจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 โรง

นอกจากจะให้ความสำคัญกับการขยายในประเทศแล้ว นายวิชา  ยังให้ความสนใจที่จะขยายสาขาในตลาดต่างประเทศอีกด้วย  โดยในส่วนของปี 2561 เบื้องต้นคาดว่าจะขยายโรงภาพยนตร์อีกประมาณ 3-4 สาขา ใน 2 ประเทศ  ประกอบด้วย กัมพูชา  จะเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ในเมืองพนมเปญ  และเสียมเรียบ  ส่วนลาว จะเปิดให้บริการในเวียงจันทร์  เป็นต้น

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจอื่นๆ นั้น กลุ่มเมเจอร์ ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาชมภาพยนตร์ได้รับอรรถรสในการชมภาพยนตร์อย่างเต็มที่  ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการจับมือกับบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่อย่างซัมซุง  เปิดตัวจอภาพยนตร์เทคโนโลยีจอภาพแอลอีดีมาใช้ฉายภาพยนตร์ ภายใต้ชื่อ  Samsung Cinema LED Screen ซึ่งการนำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้มีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้ในโรงภาพยนตร์ต่อจากประเทศเกาหลี

นายวิชา กล่าวต่อว่า การนำ Samsung Cinema LED Screen  มาใช้แทนที่การฉายด้วยระบบโปรเจคเตอร์ในครั้งนี้  ถือเป็นการยกระดับการชมภาพยนตร์ให้มีความคมชัดในทุกมุมมอง  เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีความละเอียดของภาพระดับ 4K (4096 x 2160) พร้อมระดับความสว่างสูงสุด หรือ Peak Brightness ถึง 146 FL (ราว 500 nits) ซึ่งสูงกว่าความสามารถของโปรเจคเตอร์ในโรงภาพยนตร์ทั่วไปราว 10 เท่า  ซึ่งในปลายเดือนม.. 2561 จะพร้อมเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก ที่โรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ โรงที่ 6

 

 

ทั้งนี้  การนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้นอกจากจะช่วยกระตุ้นความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาชมภาพยนตร์ในเทคโนโลยีใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว  ยังสามารถปรับใช้เป็นคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ รองรับการจัดกิจกรรมทางการตลาดแปลกใหม่ภายในโรง ซึ่งโรงภาพยนตร์ปกติทั่วไปไม่สามารถจัดได้ เช่น การเดินแบบแฟชั่นโชว์, เป็นสตูดิโอถ่ายรายการในโรงภาพยนตร์, สามารถถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตและกีฬาในโรง พร้อมทำกิจกรรมกับผู้เข้าชม หรือการแข่งขันอีสปอร์ต โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องแสงไม่เพียงพอขณะฉายภาพบนจอ สำหรับภาพยนตร์ที่ฉายจะเป็นภาพยนตร์ฟอรม์ยักษ์ฮอลลีวู้ดในรูปแบบใหม่ๆ เช่น HDR 4K

อย่างไรก็ดี  เทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้ดังกล่าว นายวิชา บอกว่า อาจจะส่งผลให้ค่าตั๋วหนังของโรงภาพยนตร์นั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  แต่มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับลูกค้าที่เป็นคอหนังอย่างแน่นอน


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ต.ค. 2560 เวลา : 20:35:41
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 5:54 pm