โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่รัฐบาลกำหนดให้ผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับบัตร สามารถนำบัตรไปซื้อสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากให้มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น
ซึ่ง น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯ ได้สั่งจ่ายเงินจากระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐ แบบอิเล็กทรอนิกส์ (จีเอฟเอ็มไอเอส) ให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้ว โดยเริ่มงวดแรกเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสั่งจ่ายเงินให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีประชาชนมาซื้อของในวันที่ 1 ต.ค. 60 เป็นจำนวนเงิน 108 ล้านบาท
และหลังจากนี้กรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐทุกวันทำการ โดยร้านค้าจะได้รับเงินนับถัดจากวันที่ประชาชนมาซื้อของเป็นเวลา 3 วันทำการ ซึ่งจะทำให้ร้านค้ามีเงินไปหมุนเวียนดำเนินธุรกิจ นำไปใช้ซื้อสินค้ามาเติมเพื่อขายใหม่ โดยเป็นผลดีกับเศรษฐกิจฐานรากทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
ด้านนายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีผลทางจิตวิทยา ช่วงสร้างบรรยากาศจับจ่ายและการบริโภคในประเทศคึกคักขึ้น แต่ผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมีไม่มากไม่ถึงร้อยละ 0.1 เพราะเป็นเม็ดเงินเดิมจากโครงการที่เคยมีอยู่แล้ว เช่น รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี จึงไม่ได้มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว แตกต่างจากโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ซึ่งมีเม็ดเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะกระจายเม็ดเงินสู่ชุมชนในไตรมาส 3-4 ปีนี้จะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจถึงร้อยละ 0.1
อย่างไรก็ตาม กนง. ยังมองว่า กำลังซื้อในระยะข้างหน้ายังไม่เข้มแข็ง เนื่องจากการจ้างงานและรายได้ของแรงงาน ยังไม่ได้รับผลดีอย่างเต็มที่จากการส่งออก โดยเฉพาะแรงงานผู้มีรายได้น้อยซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 50 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง จะเป็นแรงกดดันกำลังซื้อ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง ฉบับใหม่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังไม่มีความเข้าใจแนวทางการปฎิบัติอย่างจริงจัง อาจส่งผลให้การเบิกจ่ายของท้องถิ่นในช่วงแรกชะลอหรือหยุดชะงัก แต่เชื่อว่าภาครัฐจะเร่งทำความเข้าใจหน่วยงานและเร่งเบิกจ่ายในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้ได้ และยังมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจที่มีการวางแผนลงทุนไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ จะทำให้เกิดเงินสะพัดเดือนละกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท และทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท
ข่าวเด่น