สัปดาห์หน้าก็จะเข้าสู่เทศกาลกินเจแล้ว ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 19-28 ต.ค. ส่งผลให้บรรดาสินค้าและห้างร้านต่างๆ เริ่มออกมาโฆษณาประชาสัมพันธ์และเตรียมสินค้าประเภทอาหารเจออกมาจำหน่ายกันอย่างคึกคัก เนื่องจากปีนี้เทศกาลกินเจตรงกับวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จึงทำให้บรรยากาศเทศกาลกินเจปีนี้ดูเหมือนจะคึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมา แม้ว่าปีนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะไม่ค่อยเอื้อต่อการจับจ่ายใช้สอยมากนัก
ทั้งนี้ จากการที่เทศกาลกินเจปีนี้ตรงกับช่วงเวลาที่สำคัญของปวงชนชาวไทย นั่นก็คือช่วงเวลาของการถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จึงทำให้คาดการณ์กันว่าปีนี้น่าจะมีคนกินเจมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้คาดการณ์ว่าภาพรวมเทศกาลกินเจปีนี้น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดภายในภาคของธุรกิจค้าปลีกไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตจากปี 2559 ที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 10%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าช่วงเทศกาลกินเจปีนี้ คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังสนใจกินเจ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่ตั้งใจจะกินเจ คือ กลุ่มวัยทำงานอย่าง พนักงานออฟฟิศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการกินเจเพื่อลดละกิเลส/ งดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ เป็นหลัก ขณะที่เหตุผลรองลงมาคือ ต้องการกินเจเพื่อสุขภาพอิงกระแสอาหารคลีนฟู๊ด/ออร์แกนิค และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาถึงช่องทางในการเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มเจ จะพบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่นิยมเลือกซื้อมารับประทานที่บ้านหรือที่ทำงานมากกว่าที่จะออกไปทานตามร้านอาหาร โดยช่องทางเลือกซื้อยอดนิยม คือ ซื้อสำเร็จรูปจากร้านอาหารมารับประทานมากที่สุด รองลงมาคือ ซื้อจากร้านอาหารข้างทาง/ แผงลอย/ ตลาดสด (แบบตักขาย) เนื่องจากสามารถแบ่งทานได้หลายคน หลายมื้อ จากหลากหลายร้าน ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคเป้าหมายที่มีลักษณะการดำเนินชีวิตที่ค่อนข้างเร่งรีบ ชอบทานอะไรง่ายๆ ที่สะดวกรวดเร็ว แต่ต้องมีความอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการและราคาที่สมเหตุสมผล
สำหรับสิ่งที่แตกต่างชัดเจนจากปีก่อน คือ การมีช่องทาง Food Online และ Delivery เริ่มเข้ามามีบทบาทกับคนกรุงเทพฯ สามารถเลือกใช้บริการมากขึ้น โดยช่วงกินเจปีนี้คาดว่าทั้งผู้ประกอบการเดิมในตลาด และผู้ประกอบการหน้าใหม่ ต้องมีการเพิ่มช่องทางขายแบบออนไลน์ และเดลิเวอรี่อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้สะดวกและรวดเร็ว
น.ส.ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือท็อปส์ กล่าวว่า ภาพรวมเทศกาลกินเจในปีนี้คาดว่าน่าจะมีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือมีเม็ดเงินสะพัดอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 4,500 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าปีนี้คนไทยจะหันมากินเจมากขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งในส่วนของบริษัทเองก็มีการเตรียมสินค้าทั้งอาหารสด อาหารแห้ง และอาหารพร้อมรับประทานมาไว้บริการลูกค้า โดยเมนูอาหารสดที่จะนำมาจำหน่ายปีนี้จะมีประมาณ 250 รายการ เริ่มต้น 19 บาท ขณะที่ผักผลไม้ก็มีให้ลูกค้าได้เลือกกว่า 5,000 รายการ
นอกจากนี้ ยังมีอาหารกระป๋องเจอีก 300 รายการ และจัดงานอีเวนต์อาหารเจใน 4 สาขา คือ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเฟสติวัลอีสต์วิลล์ และเซ็นทรัลบางนา ซึ่งจากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือท็อปส์คาดว่าจบเทศกาลกินเจปีนี้น่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559 ที่ประมาณ 15-20%
นายพิริยะ กมลเดชเดชา ผู้ช่วยรองประธาน ฝ่ายจัดซื้อสินค้าประเภทอาหารสด บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเทศกาลกินเจปีนี้น่าจะคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะน่าจะมีลูกค้ารับประทานอาหารเจมากขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งในส่วนของบิ๊กซีก็มีอาหารเจหลากหลายรูปแบบนำมาจำหน่าย เช่น กลุ่มสินค้าอาหารแห้ง กลุ่มเครื่องดื่ม นมถั่วเหลือง และนมอัลมอนด์ พร้อมกันนี้ ยังมีการทำโปรโมชั่นจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษกว่า 600 รายการ เพื่อให้จบเทศกาลกินเจปีนี้มียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15%
ด้านนายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า บริษัทได้เตรียมเมนูอาหารเจเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และรองรับความต้องการของผู้บริโภค ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นไว้อย่างครบครัน ทั้งเมนูเจมื้อเช้า เมนูเจมื้อรองท้อง เมนูเจมื้อหนัก และเมนูเจมื้อทานเล่น ที่มีทั้งประเภทอาหารหลัก ขนมหวาน เบเกอรี่ นม และเครื่องดื่ม กว่า 200 รายการ โดยเป็นสินค้าสูตรเจที่คิดค้นมาเป็นพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคด้วยสินค้าที่มีคุณภาพดี อร่อย สะอาด ปลอดภัย ราคาไม่แพง มีความหลากหลายให้ได้เลือกสรร และ ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ภายใต้แคมเปญ “อิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มเจ ที่เซเว่น อีเลฟเว่น”
ในส่วนของอาหารเจที่นำมาจำหน่ายภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นปีนี้จะเน้นไปที่อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนของเห็ดและผักมากขึ้น เช่น ข้าวเห็ดญี่ปุ่นผัดพริกสดเจ, ยำวุ้นเส้นเจ, ข้าวลาบเห็ดเจ ก๋วยเตี๋ยวหลอดเจ ข้าวกะเพราเจ และผัดหมี่ฮ่องกงเจ ขณะเดียวกัน ยัง ได้จัดโปรโมชั่นจับคู่ เพิ่มเงิน 5 บาท สามารถอิ่มอร่อยกับ ซาลาเปาผักเห็ดหอม คู่กับ นมถั่วเหลืองดีน่า หรือจะเพิ่มเงิน 10 บาท เลือกจับคู่ โอเลี้ยงเจ เป็นต้น และยังมีโปรโมชั่นซื้อข้าวกล่องเจแจกแสตมป์จัดหนัก และส่วนลดราคาอาหารเจต่างๆ อีกมากมาย สามารถติดตามโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลเจปีนี้ผ่าน 7-Eleven App และ ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทุกสาขา ตั้งแต่ วันที่ 15-28 ต.ค.นี้
ข่าวเด่น