สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้บริหาร GL ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในความผิดเกี่ยวกับการทุจริต เข้าข่ายเป็นธุรกรรมอำพราง การยักยอก ยินยอมให้ลงบัญชีและทำบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริง จึงมีผลทำให้งบการเงินของ GL แสดงรายการเงินให้กู้ยืมสูงกว่าความเป็นจริง 54 ล้านเหรียญสหรัฐ และเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมตามสัญญาอยู่ที่ร้อยละ 14-25 ต่อปี จึงส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยจากการประกอบธุรกิจสูงกว่าความเป็นจริงไปด้วย ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงทำให้งบการเงินของ GL ไม่เป็นไปตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ หาก GL ไม่แก้ไขงบการเงิน แบบรายงาน 56-1 และแบบรายงาน 56-2 ให้ถูกต้อง ตรงต่อความเป็นจริงโดยเร็ว อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ และหากกรรมการของบริษัทไม่ดำเนินการให้มีการแก้ไขงบการเงินให้ถูกต้อง โดยยินยอมให้งบการเงินเป็นเท็จ ไม่ถูกต้อง หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง อาจส่งผลให้มีความผิดตามมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกันด้วย
ทั้งนี้ กรณีที่ผู้สอบบัญชีพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก็อาจทำให้จำนวนเงินที่ GL ต้องแก้ไขในงบการเงินเพิ่มขึ้นจากที่กล่าวข้างต้นได้
ข่าวเด่น