การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ปัจจุบันแบ่งเป็น 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ดำเนินงานโดยธนาคารเกียรตินาคิน และธุรกิจตลาดทุนดำเนินงานโดย ทุนภัทร บล.ภัทร และ บลจ.ภัทร ซึ่งได้มีการดำเนินงานประสานงานอย่างใกล้ชิด
.jpg)
สำหรับไตรมาส 3/2560 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.4 เมื่อเทียบไตรมาส 2/2560 หากเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 ส่วนผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2560 เปรียบเทียบกับงวดเก้าเดือนปี 2559 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 4,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 จากงวดเดียวกันของปี 2559
ณ สิ้นไตรมาส 3/2560 มียอดสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการปรับโครงสร้างหนี้มีจำนวน 10,892 ล้านบาท โดยมียอดสำรองทั่วไปทั้งสิ้น 4,500 ล้านบาท อัตราส่วนสำรองทั้งสิ้นต่อสำรองตามเกณฑ์เท่ากับร้อยละ 185.4 เปรียบเทียบกับร้อยละ 181.6 169.8 ณ สิ้นไตรมาส 3/2559 และมีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเท่ากับร้อยละ 105.6 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 105.4 ณ สิ้นไตรมาส 3/2559
ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกำไรถึงสิ้นปี 2559 อยู่ที่ร้อยละ 17.12 โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับร้อยละ 13.87 แต่หากรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 3/2560 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะเท่ากับร้อยละ 18.19 และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับร้อยละ 14.95
ข่าวเด่น