คลัง เปิดประชาพิจารณ์ยึดเงินฝากที่บัญชีไม่เคลื่อนไหวเกิน 10 ปี เข้าคลัง พบมีเม็ดเงินกว่า 10,000 ล้านบาท เตรียมเสนอ ครม. พิจารณาธันวาคมนี้ คาดมีผลบังคับใช้ภายในปี 2561
กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างกฎหมายดึงเงินฝากที่มีเงินเกิน2,000 บาทและที่ไม่เคลื่อนไหวในช่วง 10 ปี เข้าเงินคงคลังในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งนายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า หลังจาก สศค.เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน พ.ศ.... (ร่าง พ.ร.บ.Dormant Account) จนถึงวันที่ 14 พ.ย.2560 จากนั้นจะมีการสรุปและส่งร่าง พ.ร.บ.กฎหมายดังกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้ในเดือน ธ.ค.นี้ โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2561
ซึ่งในหลักการของร่างกฎหมาย คือ กระทรวงการคลังจะนำเงินฝากในสถาบันการเงินของประชาชนที่มีเงินในบัญชีเกิน 2,000 บาทขึ้นไปและไม่มีการเคลื่อนไหวใน 10 ปี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 10,000 ล้านบาท มาจัดเก็บไว้ในเงินคงคลัง โดยผู้ฝากหรือทายาทสามารถแจ้งขอถอนเงินคืนได้ตลอดเวลา
โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ทั้งผู้ฝากเงินและสถาบันการเงิน โดยผู้ฝากเงินหากบัญชีไม่เคลื่อนไหว สถาบันการเงินก็จะคิดค่าดูแลบัญชี ซึ่งจะตัดออกจากบัญชีเป็นรายปี ส่วนสถาบันการเงินจะช่วยลดค่าใช้จ่ายรักษา บัญชี และ ลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนเงินฝากที่จะต้องคิดจากฐานเงินฝาก
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง บอกถึงกรณีที่ สศค. เปิดรับฟังความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงินว่า ในต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา มีการบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน เพราะตามหลักการเงินดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ทางสศค.จึงจะดูแลให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด
ทั้งนี้ การจะนำเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวนั้น เข้าคลัง หรือไปใช้ในประโยชน์ส่วนใด จะต้องขึ้นอยู่กับผลการทำประชาพิจารณ์ก่อน และสรุปเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.พิจารณา จากนั้นจึงจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. โดยคาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ภายในปีหน้า
ส่วน ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ บอกว่า เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อนำเงินฝากโอนมาไว้ในความดูแลของกระทรวงการคลังแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างจริงจังในการติดต่อหรือแจ้งให้ประชาชนเจ้าของบัญชีหรือทายาทรับทราบ นอกจากนี้ยังได้เสนอว่า การจะยึดเงินดังกล่าวเข้าเป็นเงินแผ่นดินน่าจะขยายเวลาออกไปให้นานขึ้น เช่นปรับเป็น 15 ปี
ข่าวเด่น