กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผลักดัน 3 แนวทาง ลดค่าธรรมเนียม รวมขั้นตอนจองชื่อจดทะเบียน และบูรณาการ 3 หน่วยงาน ประกันสังคม สรรพากร และ ก.พ.ร. รับเป้าหมายขึ้นเป็น Top Ten ในการจัดอันดับ ความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ ของโลก หลังจาก Doing Business ของธนาคารโลก รายงานการจัดอันดับ ไทยขึ้นอันดับที่ 26 ปี 2018
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ ตามรายงาน Doing Business ในปี 2018 ของธนาคารโลก ประเทศไทยได้รับการประเมินอันดับสูงขึ้นใน 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ อันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 26 ดีขึ้น 20 อันดับ จากลำดับที่ 46 ในปี 2017 ส่วนด้านการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting a Business) ปีนี้ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 36 ดีขึ้น 42 อันดับ จากลำดับที่ 78 ในปี 2017 โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด และติดอันดับ Top Ten ในการพัฒนาที่ดีที่สุดรองจากประเทศบรูไน
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย ในการผลักดันให้การประกอบธุรกิจในไทย เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น กรมฯจึงมีมาตรการที่จะต้องเร่งดำเนินการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการ ดังนี้ 1. การปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมในการยื่นจดทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นมาตรการจูงใจให้มีการใช้ระบบ
e-Registration 2. การรวมขั้นตอนการจองชื่อและการจดทะเบียนในระบบ e-Registration ให้เป็นขั้นตอนเดียวกัน และ 3. บูรณาการร่วมกับสำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร และสำนักงาน ก.พ.ร. ให้มีการเชื่อมโยงระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) การขึ้นทะเบียนลูกจ้าง และการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ผ่านแพลทฟอร์ม (Platform) เดียวกัน โดยจะดำเนินการพร้อมกับการสร้างการรับรู้ให้กับภาคเอกชนในวงกว้างมากขึ้น เพื่อร่วมกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วและสิ่งที่กำลังจะดำเนินการในแวดวงธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อนักลงทุนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
สำหรับ การประเมินความสะดวกในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลกมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนจากทั่วโลก ซึ่งอันดับที่จะออกมาจะเป็นตัวชี้วัดและบอกสถานะของประเทศถึงความพร้อมในการรองรับ การลงทุน ในส่วนของประเทศไทยนั้นรัฐบาลคาดหวังว่าอยากให้ไทยเป็น 1 ใน 10 ของประเทศที่ง่ายต่อการเริ่มต้นประกอบธุรกิจ
ด้าน นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า อันดับที่เพิ่มขึ้น 20 อันดับ สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการในการปรับปรุงกระบวนการทำงานของภาครัฐต่อการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจได้ดีขึ้นในหลายด้าน และเชื่อว่า อันดับในปีถัดไปจะดีขึ้นจากปีนี้ ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี)
ข่าวเด่น