บมจ. ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 2 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 880 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TITLE”
.jpg)
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียม ใน จ. ภูเก็ต เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “TITLE” ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560
TITLE ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อ “The Title” ซึ่งตั้งอยู่ ณ หาดราไวย์ และหาดในยาง จ. ภูเก็ต ปัจจุบันมีโครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างขายจำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,167 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาจำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,295 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
TITLE มีทุนชำระแล้ว 200 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น แบ่งเป็นเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 112.80 ล้านหุ้น และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานบริษัท 7.20 ล้านหุ้น โดยจะเสนอขายในวันที่ 16-18 ตุลาคม 2560 ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท มูลค่าระดมทุนรวม 264 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 880 ล้านบาท โดยมี บล. เออีซี เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายเด่นดนัย หุตะจูฑะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) เปิดเผยว่า TITLE ให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลที่ตั้งที่โดดเด่น การออกแบบโครงการที่เป็นเอกลักษณ์ การให้ความสำคัญกับคุณภาพการก่อสร้าง ตลอดจนสภาพแวดล้อมของโครงการที่เน้นความร่มรื่นและให้ความรู้สึกเสมือนการพักผ่อนในโรงแรมหรือ รีสอร์ท ซึ่งการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และมีฐานทุนที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการขยายโครงการในอนาคต โดยจะนำเงินระดมทุนไปใช้พัฒนาโครงการ The Title Residencies Naiyang Phuket และซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการในอนาคต
TITLE มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มหุตะจูฑะ 64.65% นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว 3.85% และบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 2.50% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ที่ 2.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) ที่ 13.75 เท่า โดยคำนวณจากผลกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 3/ 2559 ถึงไตรมาส 2/2560) หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.16 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.rhombho.co.th และที่ www.set.or.th
ข่าวเด่น