การตลาด
สกู๊ป "กูลิโกะ" จัดทัพรุกตลาดไอศกรีมไทยปักธง 5 ปี นั่งอันดับ 3


หากพูดถึงแบรนด์ไอศกรีมที่สร้างสีสันให้กับตลาดไอศกรีมได้อย่างคึกคักในปีที่ผ่านมาคงจะหนีไม่พ้นแบรนด์กูลิโกะ  เนื่องจากสินค้าได้ผลการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี จนทำให้สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า  แม้ว่าจะไม่ได้มีการทำกิจกรรมการตลาดอย่างจริงจังมากนัก ซึ่งจากผลการตอบรับที่ดีดังกล่าวทำให้ กูลิโกะ ต้องหันมาปรับกลยุทธ์การทำตลาดใหม่  เริ่มจากการขยายกำลังการผลิตสินค้าเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า

 

 

 

อย่างไรก็ดี เนื่องจาก กูลิโกะ ไม่มีโรงงานผลิตไอศกรีมในประเทศไทย  ทำให้ต้องจ้างโรงงานผลิตไอศกรีมมืออาชีพอย่างบริษัท จอมธนา จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายไอศกรีมครีโม เป็นผู้ผลิตไอศกรีมให้  ซึ่งครั้งนี้ กูลิโกะ ทุ่มสุดตัวด้วยการสั่งให้บริษัท จอมธนา ผลิตไอศกรีม เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่า  ขณะเดียวกันยังมอบหมายให้บริษัท จอมธนา เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าให้อีกด้วย  เนื่องจากบริษัท จอมธนา มีธุรกิจโลจิสติกส์

 

 

นายคิโยทะคะ ชิมะโมริ กรรมการผู้จัดการบริษัท กูลิโกะ โฟรเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจไอศกรีมกูลิโกะ กล่าวว่า  บริษัทได้เริ่มนำไอศกรีมกูลิโกะ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อเดือน .. ปี 2559 ที่ผ่านมา  ซึ่งถือว่าได้ผลการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยดีเกินคาด  เนื่องจากในช่วงแรกของการนำสินค้าเข้ามาทำตลาดสินค้าไม่พอขาย  แต่หลังจากจำหน่ายสินค้าไประยะหนึ่งความต้องการของผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ   เนื่องจากบริษัทมีการเพิ่มกำลังการผลิตไอศกรีมกูลิโกะเพิ่มขึ้น

นอกจากจะให้ความสำคัญในส่วนของการเพิ่มกำลังการผลิตไอศกรีม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าแล้ว  กูลิโกะ ยังจะให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางจำหน่ายอีกด้วย จากเดิมจะเน้นการจำหน่ายสินค้าเฉพาะในร้านสะดวกซื้อ  และซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นหลัก ทั้งนี้ก็เพื่อให้สินค้าครอบคลุมความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย  และหนึ่งในช่องทางสำคัญที่จะเข้าไปรุกทำตลาดมากขึ้น คือ การนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าทั่วไปในตลาดต่างจังหวัด รวมไปถึงร้านอาหารต่างๆ 

นายคิโยทะคะ กล่าวต่อว่า  ในปีแรกของการทำตลาดไอศกรีมกูลิโกะ  บริษัทเน้นทำการตลาดเพียงในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น  จึงทำให้ส่วนแบ่งการตลาดที่ได้รับมีเพียงแค่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล  ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 7% ดังนั้น  จึงไม่น่าจะแฟร์กับบริษัทหากจะให้นำส่วนแบ่งการตลาดยอดขายของแบรนด์อื่นที่ขายทั้งประเทศมาเปรียบเทียบกัน

จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้แผนการทำตลาดนับจากนี้ไป  กูลิโกะ พยายามอุดช่องว่างทางการตลาดให้เหลือน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขยายโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างจังหวัด หรือการเพิ่มโอกาสทางการขายด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วย  ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จมาแล้วนั่น ก็คือ การนำตู้หยอดเหรียญกดไอศกรีมอัตโนมัติมาเปิดให้บริการควบคู่ไปกับการขยายตู้ขายไอศกรีมของกูลิโกะ ที่จะกระจายไปตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น 

ทั้งนี้  ในส่วนของตู้หยอดเหรียญกดไอศกรีมอัตโนมัตินั้น กูลิโกะ มีแผนที่จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร 4 จุดด้วยกัน  คือ  ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ บริเวณทางเชื่อมบีทีเอสสยาม และ ชั้น G หน้าอิเกีย ศูนย์การค้าเมกา บางนา  ซึ่งทั้ง 2 จุดจะเริ่มเปิดให้บริการในเดือน ..นี้  หลังจากนั้นเดือน ..จะย้ายไปที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์  และชั้น 6 โซนพลาซ่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  ซึ่งในส่วนของตู้ดังกล่าวจะอยู่ที่ประเทศไทยเพียง 2 เดือนเท่านั้น  เพื่อทดลองผลการตอบรับของลูกค้า

 

 

นายคิโยทะคะ กล่าวอีกว่า  การนำเข้าตู้หยอดเหรียญกดไอศกรีมอัตโนมัติ  จากประเทศญี่ปุ่นมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ทดลองซื้อไอศกรีมจากตู้อัตโนมัติในครั้งนี้  ถือเป็นการตอบสนองกระแสเรียกร้องจากผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการจะเป็นลูกค้าไอศกรีมกูลิโกะ  ซึ่งการนำตู้หยอดเหรียญกดไอศกรีมอัตโนมัติเข้ามาให้บริการในประเทศไทยครั้งนี้  ถือเป็นประเทศแรกที่ทางบริษัท เอซากิ กูลิโกะ ประเทศญี่ปุ่น ได้จัดส่งตู้หยอดเหรียญกดไอศกรีมอัตโนมัติ มาทำการตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น 

นอกจากนี้ กูลิโกะ ยังได้มีการเปิดตัวไอศกรีมรสชาติใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมจำนวน 3 รสชาติ คือ 1. ไจแอนท์ โคน คราวน์ (รสริช ช็อกโก แอนด์ ครัช อัลมอนด์ ไอซ์) ที่มาพร้อมจุดเด่นด้วยการเป็นไอศกรีมช็อกโกแลตทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไอศกรีมเบลเยี่ยมช็อกโกแลตเข้มข้น อัดแน่นมาใน โคนช็อกโกแลตสูตรพิเศษ ท้อปด้วยดาร์กช็อกโกแลตดิสก์ ปิดท้ายด้วยช็อกโกแลตชิ้นหนาที่ปลายโคน เสิร์ฟพร้อมถั่วอัลมอนด์พราลีนเคลือบเนยคาราเมลจากประเทศสหรัฐอเมริกา

2. เซเว่นทีนไอซ์ คราวน์ (รสดับเบิล ช็อกโกล่า คาราเมล ไอซ์) ไอศกรีมแท่งรูปแบบใหม่สุดเทรนดี้ที่มาในรสเบลเยี่ยมช็อกโกแลต ผสมคาราเมล-ดาร์กช็อกโกแลตชิพ ที่รสชาติโดดเด่นไม่เหมือนใคร และ 3. พาแนปป์ (รสทริปเปิลช็อกโกแลตซันเด) ไอศกรีมถ้วยที่มาพร้อมกับจุดเด่นกับการเป็นช็อกโกแลตซันเดย์ที่มีเลเยอร์ 3 ชั้นจากเนื้อไอศกรีมช็อกโกแลตตัดกับเกลียวดาร์กช็อกโกแลตกรุบกรอบ ผสานด้วยซอสช็อกโกแลตเข้มข้น 

หลังจากออกมาทำการตลาดมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ กูลิโกะ มั่นใจว่าสิ้นปี 2561 จะมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ  7%  และในอีก 5 ปีจะมีส่วนแบ่งการตลาดไอศกรีมเป็นอันดับ 3 จากปัจจุบันตลาดไอศกรีมในประเทศไทยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท  ซึ่งปีนี้คาดการณ์กับภาพรวมตลาดไอศกรีมน่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า  5-10%  

การออกมารุกทำตลาดอย่างหนักของแบรนด์ กูลิโกะ ในครั้งนี้น่าจะทำให้ตลาดไอศกรีมของไทยมีความคึกคักมากขึ้นอย่างแน่นอน  เพราะผู้เล่นรายเดิมที่อยู่ในตลาดคงไม่ปล่อยให้ กูลิโกะ ชิงส่วนแบ่งทางการตลาดไปได้ง่ายๆอย่างแน่นอนโดยเฉพาะผู้เล่นเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ในตลาด


LastUpdate 03/11/2560 11:50:58 โดย : Admin
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 7:23 pm