แม้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องยอมรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่มีผลต่อผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อมหรือSMEs อย่างที่รัฐบาลต้องการ
ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในการสัมนาโครงการบริหารความเสี่ยงFX ของ SMEs โดยระบุว่า ในช่วงเวลาที่เหลืออีก 1 ปีของรัฐบาลชุดนี้ จะให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการ SMEs โดยจะให้SMEs เป็นหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรือ SMEs Focus Economy เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ของไทยเป็น SMEs กว่าร้อยละ40 ของจีดีพี ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติสินเชื่อเพื่อช่วย SMEs กว่า 200,000 ล้านบาท และ ค้ำประกันสินเชื่อ SMEs อีก 200,000ล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้สั่งให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย( Exim Bank ) ทำงานร่วมกัน โดยให้มีการปรับโครงสร้างเอสเอ็มอีแบงก์ ครั้งใหญ่ เพิ่มบุคคลากร เทคโนโลยี เพื่อวิเคราะห์ ประเมินผล และ อนุมัติสินเชื่อได้ทันทีในพื้นที่ โดยไม่ต้องส่งเรื่องขออนุมัติที่สำนักงานใหญ่ เพื่อให้SMEs ได้มีเงินทุนได้อย่างรวดเร็ว เพราะปัจจุบันเอสเอ็มอีแบงก์มีเพียง 90 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการให้บริการ และสั่งการให้ธนาคารออมสิน จัดตั้งศูนย์เอสเอ็มอีที่สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้สินเชื่อและให้คำแนะนำในการทำธุรกิจ ขณะที่Exim Bank ต้องสนับสนุนให้SMEs ที่ต้องการนำเข้าและส่งออก สามารถออกทำธุรกิจต่างประเทศได้
รวมทั้งขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ เข้ามาร่วมมือในการสร้างความเข้มแข็งให้SMEs โดยให้มีจัดแพ็กเก็จสินเชื่อ และฝึกอบรม ให้ความรู้เรื่องการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน การบริหารความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ หลักบัญชีและระบบภาษีเบื้องต้น เพื่อให้ SMEsรู้จักการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง เพื่อช่วยให้ SMEs ปรับตัวได้ทันกับเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว และทันกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งแบงก์เอกชนอาจจะต้องยอมลดกำไรลงบ้าง ขณะที่แบงก์รัฐก็ต้องเน้นSMEs ไม่ใช่ไปแข่งกับแบงก์เอกชนที่มุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อรายใหญ่
ด้านนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และ กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์พร้อมให้การสนับสนุนSMEs ตามที่รองนายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย โดยจะจัดการอบรมให้SMEsที่เข้าร่วมอีก 30 ครั้ง ทั่วประเทศภายในปีนี้ และSMEsที่เข้าร่วมโครงการบริหารความเสี่ยงFX จะได้สิทธิ์ทดลองใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยง ซึ่งคาดว่าจะช่วยเหลือSMEs จำนวน 17,000 ราย คิดเป็นวงเงินอัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 56,000 ล้านบาท
ข่าวเด่น