นายอับดุล ฮามิด บิน โจนิด (Abdul Hamid Bin Jonid) ชาวสิงคโปร์หัวใจอึด โชว์ความแกร่งคว้ารางวัลชนะเลิศรถยนต์ซูบารุ XV 2.0i-S ไปครองได้อย่างสมภาคภูมิ หลังจากยืนหยัดอยู่ในการแข่งขัน Mediacorp Subaru Car Challenge 2017 เป็นคนสุดท้ายด้วยเวลา 74 ชั่วโมง 15 นาที
ทั้งนี้ นายอับดุล ฮามิด บิน โจนิด (Abdul Hamid Bin Jonid) ชาวสิงคโปร์วัย 58 ปี หนึ่งในผู้ชนะที่มีอายุมากที่สุดของรายการ Mediacorp Subaru Car Challenge คว้ารางวัลใหญ่กลับบ้านไปในที่สุด หลังจากเข้าร่วมการแข่งขันทุกครั้งมาเป็นเวลาถึง 10 ปี โดยพิชิตชัยไปได้อย่างน่าประทับใจด้วยเวลา 74 ชั่วโมง 15 นาที ในขณะที่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นายหลวน ตูลาง (Luan Tu-Lang) จากเวียดนามและรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือนายฟิลมาร์ก เบอร์นานท์ (Filmark Bernante) จากฟิลิปปินส์ ทำเวลาไป 74 ชั่วโมง 14 นาทีและ 73 ชั่วโมง 48 นาที ตามลำดับ และผู้เข้าแข่งขันชาวไทยที่ได้รับรางวัล Country Winner มูลค่า 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยสามารถทำเวลาได้นานที่สุดจากตัวแทนประเทศไทยทั้ง 10 ท่านคือ นายพลไพศาส ประภาเศรษฐี ด้วยสถิติ 49 ชั่วโมง
ด้วยความมุ่งมั่นและจิตใจที่ไม่ย่อท้อแม้ต้องเผชิญความพ่ายแพ้มาหลายครั้ง นายอับดุล ฮามิด บิน โจนิด (Abdul Hamid Bin Jonid) หรือที่รู้จักกันในนาม กาซัง (Kacang) ก็ไม่ปล่อยให้อายุเป็นอุปสรรค และท้ายที่สุดก็คว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศรางวัลรวม และได้รับรางวัลใหญ่ที่สุดในงานเป็นรถยนต์ซูบารุ XV 2.0i-S มูลค่า 65,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ก่อนหน้านี้เขาได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 มาถึง 2 ครั้งในปี พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2553 และหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะในครั้งนี้ นายอับดุล ฮามิด กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความกระตือรือร้นว่า “ ขอแค่อย่าล้มเลิกที่จะทำในสิ่งที่คุณต้องการ” และเมื่อถามถึงคำแนะนำที่เขาอยากจะมอบให้แก่ผู้เข้าแข่งขันที่ฝันจะเป็นผู้ชนะในอนาคต เขากล่าวว่า “ในช่วงเวลาพัก 5 นาที ในทุกๆ 6 ชั่วโมงนั้น ให้ฟังเสียงจากร่างกายและทำในสิ่งที่ร่างกายบอกให้ทำ”
ด้านรองชนะเลิศอันดับ 1 นายหลวน ตูลาง (Luan Tu-Lang) ได้รับรางวัลเงินสดมูลค่ารวม 12,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ประกอบไปด้วยเงินรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มูลค่า 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ รางวัล Asian Winner เนื่องจากเป็นผู้เข้าแข่งขันที่ยืนหยัดเป็นคนสุดท้ายในระดับภูมิภาค มูลค่า 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ อีก 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์จากรางวัล Country Winner และอีก 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ก้อนสุดท้ายมาจากเงินส่วนแบ่งจากรางวัล Country Team Winner
สำหรับทีมเวียดนามได้รับรางวัล Country Team Winner และรางวัลเงินสดมูลค่า 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งจะถูกนำไปแบ่งเท่าๆกันในหมู่สมาชิกของทีมทั้ง 10 คน ซึ่งสมาชิกทั้ง 10 คนของเวียดนามทำเวลารวมกันได้ยาวนานที่สุดถึง 563 ชั่วโมง 25 นาที และเพื่อแสดงความชื่นชมในความพยายามของผู้เขาแข่งขันในระดับ Country Winner จะได้รับเงินสดมูลค่า 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์
โดยพิธีมอบรางวัลได้รับเกียรติจาก รีซ่า มูทาลิบ (Reza Mutalib) หัวหน้าฝ่ายการตลาดและกิจกรรมระดับภูมิภาค (Motor Image Enterprises Pte. Ltd) และเจสซี่ ซึง (Jessie Sng) หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรทางธุรกิจ ให้เกียรติมอบรางวัลแด่ผู้ชนะ
นับว่าเป็นการแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างผู้เข้าแข่งขันในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาคตลอดช่วงเวลาการแข่งขันและปีนี้ผลการแข่งขันก็ออกมาสูสีอย่างไม่น่าเชื่อ คุณรีซ่า มูทาลิบ (Reza Mutalib) หัวหน้าฝ่ายการตลาดและกิจกรรมระดับภูมิภาค (Motor Image Enterprises Pte. Ltd) กล่าวว่า “อับดุล ฮามิด ได้แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณใส่หัวใจลงไปในสิ่งที่คุณทำ และชัยชนะก็จะมาหาผู้ที่ไม่ละความพยายาม พลัง และจิตวิญญาณของเขา แม้ว่าจะต้องทนต่อความร้อนและฝนตกหนักกว่า 74 ชั่วโมง นั่นคือแรงบันดาลใจที่แสนวิเศษ และเราดีใจจริงๆที่ในที่สุดเขาก็ได้เฉลิมชัยชนะหลังจาก 10 ปีที่ผ่านมา” คุณรีซ่ากล่าว
“ต้องขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับ กาซัง(อับดุล ฮามิด) นี่เป็นปีที่ 10 แล้วจากที่เขาเข้าร่วมในการแข่งขันของเรา และเรารู้สึกดีใจมากที่ท้ายที่สุดผู้ชนะในปีนี้คือ อับดุล ผู้ที่มีจิตวิญญาณของคนที่รักความท้าทาย ความพากเพียร ความแข็งแกร่ง และความมุ่งมั่น เรายังอยากส่งคำขอบคุณไปถึงทุกๆคนที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันของเราด้วย” คุณเจสซี่ ซึง หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรทางธุรกิจกล่าว
เป็นครั้งแรกในการแข่งขันปีนี้ที่เพิ่มรางวัลมูลค่า 5,000 ดอลาร์สิงคโปร์ให้แก่สมาชิกทั้ง 10 คนในทีมองค์กรหรือสถาบันการศึกษาที่ชนะการแข่งขัน โดยมีเวลารวมของสมาชิกทุกคนยาวนานที่สุด และทีม Subaru Alumni ก็ได้ครองรางวัลนี้ไป
สำหรับสภาพอากาศที่ผันผวนในช่วงตลอดระยะเวลาการแข่งขัน รวมถึงพายุฝนฟ้าคะนองที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักจนจำเป็นต้องระงับการแข่งขันเป็นระยะเวลา 90 นาที ถือว่าเป็นบททดสอบความอดทนของผู้เข้าร่วมแข่งขันว่าจะสามารถเอาชนะขีดจำกัดของตนได้หรือไม่ ผู้สนับสนุน กองเชียร์ ครอบครัว และเพื่อนที่ส่งเสียงให้กำลังใจตลอดเส้นทางก็เอาใจช่วยอย่างเต็มกำลัง ตลอดทั้งภารกิจกองเชียร์ยังมีส่วนช่วยผู้เข้าแข่งขันโดยการเล่นเกมส์ออนไลน์ ซึ่งหากพวกเขาชนะ จะช่วยให้ผู้เข้าแข่งขันได้เวลาพักเพิ่ม 5 นาที ทุกๆ 6 ชั่วโมงอีกด้วย
ข่าวเด่น