หากพูดถึงตลาดนัดที่มีชื่อเสียงในย่านบางกะปิ หลายคนคงนึกถึงตลาดนัดตะวันนา เนื่องจากเปิดให้บริการมายาวนานถึง 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งจุดเริ่มต้นของตะวันนา ทางผู้บริหารมีความตั้งใจจะให้เป็นศูนย์รวมสินค้าไอที ซึ่งจะอยู่ภายในตัวอาคาร แต่เพื่อความหลากหลายของสินค้า ตะวันนา จึงได้ใช้พื้นที่นอกอาคารโดยรอบเปิดเป็นตลาดนัด และปัจจุบันศูนย์การค้าตะวันนาได้ขยายพื้นที่ยาวไปจนถึงด้านหลัง
จากพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแน่นอนว่าสินค้าที่นำมาจำหน่ายทั้งภายในอาคารและนอกอาคารเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าแฟชั่น, กางเกงยีนส์, รองเท้า, เครื่องสำอาง, เครื่องประดับ, น้ำหอม, เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ภายในตลาดนัดตะวันนายังมีการให้บริการงานฝีมือจากศิลปินสมัครเล่น เช่น การเพ้นท์เฮนน่า, การวาดรูปเหมือน หรือแม้การตัดผม
แม้ว่า ตะวันนา จะมีจุดเริ่มต้นของการเป็นศูนย์การค้าไอที แต่ปัจจุบันชื่อเสียงของ ตะวันนา มีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของความทรงจำจาก ‘ไอที’ เป็น ‘ตลาดนัด’ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสินค้าไอทีเริ่มอิ่มตัว จึงทำให้สัดส่วนการขายสินค้าไอทีใน ตะวันนา ปัจจุบันมีน้อยกว่าสินค้าแฟชั่นและอาหาร
ทั้งนี้ จากความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ประกอบกับ ตะวันนา เปิดให้บริการมายาวนานถึง 20 ปี ทางบริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด จึงมีแผนที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าตะวันนาใหม่ ด้วยการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของการเป็นตลาดนัดให้ก้าวไปสู่การเป็นคอมมูนิตี้มอลล์แนวใหม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการโฉมใหม่ภายในปี 2561
นายณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจตลาดนัดยังสามารถไปได้ แม้ว่าปัจจุบันการแข่งขันจะมีความรุนแรง แต่หากปรับตัวให้มีความแตกต่าง ด้วยการเพิ่มบริการใหม่ๆ เข้าไป ก็จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ ซึ่งจะเห็นได้จากการปรับปรุงตลาดนัดตะวันนา สาขาบางกะปิ ให้เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แนวใหม่ โดยการเพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น โรงหนัง และร้านอาหารเข้าไป เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบัน
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการปรับโฉมใหม่ที่ ตะวันนา บางกะปิ บริษัท ทีซีซี แลนด์ฯ ยังจะให้ความสำคัญกับการขยายศูนย์การค้าตะวันนาสาขาใหม่ โดยในส่วนของปีหน้ามีแผนที่จะเปิดให้บริการ ตะวันนา บางพลี ภายใต้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท และการพัฒนาตลาดนัดตะวันนา พระราม 2 ภายใต้งบลงทุน 2,500 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบคลุมฝั่งทิศตะวันออกและทิศใต้
ด้าน นายศุภเดช เลิศพยับ ผู้จัดการบริหารทรัพย์สิน แบรนด์ตะวันนา เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่ผ่านมา ตลาดนัดตะวันนา ได้มีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในฐานะ ตลาดนัดติดแอร์ที่ใหญ่ที่สุดในย่านบางกะปิ เป็นศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นที่คุ้มค่าและทันสมัยอย่างครบครัน ท่ามกลางบรรยากาศที่ดึงดูดในการช้อปปิ้ง โดยในปี 2560 ยังได้มีแผนการปรับรูปแบบของตลาดนัดให้มีรูปแบบสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายในปัจจุบันโดยปรับสู่การเป็นตลาดนัดชุมชน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างคอมมูนิตี้มอลล์และตลาดนัด
ทั้งนี้ ก็เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค 3 ประการ ได้แก่ ประการที่ 1 การตอบสนองความต้องการในการจับจ่ายสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ประการที่ 2 รักษาความเป็นตลาดนัดยอดนิยมซึ่งลูกค้ายังสามารถมาสังสรรค์ได้ ประการที่ 3 ราคาสินค้าจะต้องเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้และคุ้มค่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าจะอยู่ในพื้นที่ 3-5 กิโลเมตร เป็นลูกค้าที่มีรายได้ตั้งแต่ C- ถึง B-
นอกจากนี้ ตลาดนัดตะวันนา ยังเป็นตลาดชุมชนที่มีแบรนด์หลักชั้นนำเช่นเดียวกับในศูนย์การค้าหรือคอมมิวนิตี้มอลล์ อาทิ ซุปเปอร์มาร์เก็ต, แฟชั่นเสื้อผ้ารายใหญ่, โรงภาพยนตร์, มีศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่ เป็นต้น โดยบริษัทฯ จะดำเนินการพัฒนาและก่อสร้างโครงการตะวันนา พร้อมกัน 3 ทำเล ประกอบด้วย บางกะปิ บางพลี และพระราม 2
นายศุภเดช กล่าวต่อว่า ในส่วนของ ตะวันนา บางกะปิ บริษัทได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามทันสมัย ทั้งบริเวณด้านหน้าโครงการ โดยการปรับปรุงเต้นท์ในรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับการเดินช้อปปิ้งในฤดูฝน การปรับภูมิทัศน์รอบโครงการ เพื่อความร่มรื่นและดึงดูดสายตาของผู้สัญจรที่ผ่านไปมา โดยอนาคตจะเพิ่มเติมร้านค้า เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และสร้างสีสันให้กับการช้อปปิ้งมากขึ้น เช่น Domino Pizza, Watsons และแว่นท๊อปเจริญ เป็นต้น เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดนัดเปิดท้ายรายแรกของเมืองไทยที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ตะวันนาแล้ว บริษัท ทีซีซี แลนด์ฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกในเครือแบรนด์อื่นๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ซึ่งมีแผนที่จะขยายไปในจังหวัดท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่และพัทยา
รวมไปถึงการพัฒนาศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์เกตเวย์ พันธุ์ทิพย์ และคอมมูนี้มอลล์แบรนด์น้องใหม่ที่อยู่ในซอยลาซาน โดยในส่วนขอคอมมูนิตี้มอลล์แนวใหม่ในซอยลาซาลจะใช้งบลงทุน 500 ล้านบาท และศูนย์การค้าเกตเวย์ บางซื่อ ใช้งบลงทุน 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะปรับโฉมศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ภายใต้งบลงทุน 50 ล้านบาท ปรับโฉมศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์บางกะปิ ภายใต้งบลงทุน 50 ล้านบาท และการปรับโฉมบ็อกซ์ สเปซ รัชโยธิน ให้เป็นคอมมูนตี้มอลล์แนวใหม่ ภายใต้งบลงทุน 100 ล้านบาท โดยสิ้นปี 2560 นี้บริษัท ทีซีซี แลนด์ฯคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท
ข่าวเด่น