งานแสดงสินค้านำเข้าและส่งออกของจีน หรือ งานแคนตันแฟร์ ครั้งที่ 122 ปิดฉากลงอย่างงดงามเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยจำนวนผู้ซื้อ 191,950 ราย จาก 213 ประเทศและดินแดน เพิ่มขึ้น 3.36% เมื่อเทียบกับงานแคนตันแฟร์ ครั้งที่ 120

มูลค่าการส่งออกรวมภายในงานอยู่ที่ 1.9865 แสนล้านหยวน (3.016 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบรายปี

ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรยังคงมียอดขายสูงสุด โดยคิดเป็นสัดส่วน 52.7% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด และเพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบรายปี ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเบา รวมถึงสิ่งทอและเสื้อผ้า ด้านมูลค่าการซื้อขายของสินค้าแบรนด์เนมเพิ่มขึ้น 13.6% ขณะที่ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงก็ได้รับคำสั่งซื้อมหาศาลเช่นกัน

คุณสวี่ ปิง โฆษกของงานแคนตันแฟร์ กล่าวว่า งานครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเพราะได้รับการสนับสนุนจากผู้ซื้อที่มีจำนวนมากขึ้นและมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ผู้เข้าร่วมงานส่วนหนึ่งประกอบด้วย

- ผู้ซื้อ 84,445 รายจากประเทศต่างๆ ตามแนวเส้นทางสายไหม หรือเพิ่มขึ้น 3.48% เมื่อเทียบรายปี

- บริษัท 104 แห่งที่ติดอันดับ Top 250 Global Retailers ล่าสุด ซึ่งรวมถึงบริษัทชั้นนำของโลก 8 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่ง เช่น Walmart, Kroger, Walgreens Home Depot, Carrefour, Aldi, Tesco และ Amazon

- บริษัทระหว่างประเทศและบริษัทซอร์สซิ่ง 1,086 แห่ง เช่น Auchan (ฝรั่งเศส), KESKO (ฟินแลนด์), Taurus (สเปน), Staples (สหรัฐอเมริกา), Harbor Freight Tools (สหรัฐอเมริกา), Lifetime Brands Inc (สหรัฐอเมริกา), Kawan Lama Group (อินโดนีเซีย) และ LOCK&LOCK (เกาหลีใต้)

นอกจากนี้ งานแคนตันแฟร์ ครั้งที่ 122 ยังจัดอีเวนต์มากถึง 50 รายการ ครอบคลุมประเด็นร้อนในตลาดนานาชาติ ทั้งการประชุมอุตสาหกรรม การเสวนาด้านการออกแบบและนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างแบรนด์และการทำตลาด การส่งเสริมอุตสาหกรรมระดับภูมิภาค และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

อีเวนต์บางส่วนประกอบด้วย

- การจับคู่ทางธุรกิจจีน-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ “UAE on the Belt and Road”

- การประชุมตลาดระดับนานาชาติ The Canton Fair (UK)

- กิจกรรมซอร์สซิ่ง The Canton Fair Sourcing Day-United Nations and International Organization

คุณสวี่กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่งานแคนตันแฟร์ยังคงทำหน้าที่ส่งเสริมการค้าโลกได้เป็นอย่างดี ด้วยการรักษาคุณภาพของการจัดแสดงและดึงดูดการลงทุนมากกว่าเดิม เราหวังว่าในงานแคนตันแฟร์ ครั้งที่ 123 จะมีผู้ประกอบธุรกิจหน้าใหม่มาร่วมงานมากขึ้น เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางตลาดการค้าระหว่างประเทศและก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ไปพร้อมกัน”