ก.ล.ต. ไฟเขียวนับ 1 คำขอ เพิ่มทุนครั้งที่ 1 เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวในอาคารโรงงาน และคลังสินค้าสำเร็จรูป 30 ปี และสิทธิต่อสัญญาเช่าอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี โดยลงทุนในทรัพย์สินมูลค่าไม่เกิน 1,690 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินที่มีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% พร้อมชดเชยรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการของอาคาร ในกรณีผู้เช่าออกและชดเชยรายได้ส่วนต่างจากอัตราค่าเช่ารับประกันภายในระยะเวลา 3 ปีตั้งแต่วันที่กองทรัสต์จดสิทธิการเช่าของทรัพย์สินในการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 หนุนขนาดทรัพย์สินรวมโตเกือบ 10,000 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเพิ่มทุนได้แล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยเสนอขายผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมไม่น้อยกว่า 50% ทั้งนี้ จะขึ้นเครื่องหมาย XR วันแรกในวันที่ 24 พ.ย. 60 นอกจากนี้กองทรัสต์ประกาศจ่ายเงินสดจ่ายคืนมูลค่าหน่วยลงทุนจากผลประกอบการไตรมาส 3/60 ในอัตรา 0.1903 บาทต่อหน่วยทรัสต์
นางสาวกาญจนา เอื้อโอบอ้อม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.)ได้พิจารณานับ 1 แบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) และแบบแสดงรายการข้อมูล / ร่างหนังสือชี้ชวน สำหรับการเสนอขายหน่วยทรัสต์ในการเพิ่มทุน ครั้งที่ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้วในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้แล้วเสร็จภายในปลายปี 60 นี้ ซึ่งหลังจากที่มีการลงทุนในทรัพย์สินใหม่ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ขนาดทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ HREIT โตเกือบ 10,000 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท
ปัจจุบันกองทรัสต์ HREIT เตรียมจ่ายเงินสดจ่ายคืนมูลค่าหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยสำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ประจำปี 60 ในอัตรา 0.1903 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยตั้งแต่จัดตั้งกองในปลายปี 59 ที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลและเงินสดจ่ายคืนมูลค่าหน่วยลงทุนให้ผู้ถือหน่วยแล้วรวม 0.6412 บาทต่อหน่วย โดยอัตราผลตอบแทนต่อหน่วยคิดเป็นอัตราประมาณ 9% เมื่อเทียบกับราคาตลาดปัจจุบัน
สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ของกองทรัสต์ HREIT จะเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้าสำร็จรูปที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราช และเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค รวมจำนวน 5 โครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นหลัก ประกอบด้วยโครงการ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) (ESIE) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (HESIE) โครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี (HCIE) โครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 4 (HLP 4) และโครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรี (HSIL)โดยมีพื้นที่เช่าอาคารทั้งหมดในส่วนที่กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนเพิ่มเติม ประมาณ 55,131 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ลงทุนแล้ว 261,314 ตารางเมตรในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง ทำให้กองทรัสต์ HREIT จะมีพื้นที่เช่าหลังจากที่ลงทุนเพิ่มเติมแล้วรวม 316,445 ตารางเมตร
“ กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 1,690 ล้านบาท เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าระยะยาวในอาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป 30 ปี และสิทธิการต่อสัญญาเช่าอีก 30 ปี รวมเป็น 60 ปี โดยพื้นที่ทรัพย์สินที่จะลงทุนทั้งสิ้น 55,131 ตร.ม. ประกอบด้วยอาคารโรงงานสำเร็จรูป 47,552 ตร.ม. และอาคารคลังสินค้าสำเร็จรูป 7,579 ตร.ม. ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสูง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชภายใต้พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) และเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรีซึ่งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ตอนบนของกรุงเทพฯ และมีผู้เช่าเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยอาคารโรงงาน และคลังสินค้าดังกล่าวมีอายุเฉลี่ยประมาณ 5.26 ปี เท่านั้น นอกจากนั้นในการระดมทุนซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้ จะมาจากการขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมไม่เกิน 133.28 ล้านหน่วย และการกู้ยืมเงินระยะยาวจากสถาบันการเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท ” นางสาวกาญจนา กล่าว
กรรมการผู้จัดการ กองทรัสต์ HREIT กล่าวเพิ่มว่า ทั้งนี้กองทรัสต์ HREIT จะเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมครั้งที่ 1 โดยจะจัดสรรหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติมในครั้งนี้ให้ผู้ถือหน่วยเดิม (Rights Offering) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของหน่วยทรัสต์ที่จะมีการออกและเสนอขายในการเพิ่มทุนครั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิในการจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมดังกล่าวในวันที่ 28 พฤศจิกายน 60 (Record Date) โดยผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจะมีสิทธิในการจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในอัตรา 8.5438 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 1 หน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ขึ้นเครื่องหมาย XR วันแรกวันที่ 24 พ.ย. 60 และคาดว่าระยะเวลาเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งนี้สำหรับผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม และประชาชนทั่วไป จะอยู่ในช่วงกลางเดือนธันวาคม ปัจจุบันแบบคำขอฯ และร่างหนังสือชี้ชวนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติโดยสำนักงาน ก.ล.ต. และบริษัทฯ จะประกาศราคาเสนอขายหน่วยเพิ่มทุนให้ทราบต่อไป
สำหรับทรัพย์สินที่ลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้เป็นทรัพย์สินที่มีคุณภาพดี และมีอัตราการเช่าพื้นที่ 100% ของพื้นที่เช่า มีศักยภาพในการสร้างรายได้ และเจ้าของทรัพย์สินจะชดเชยรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการในกรณีผู้เช่าออกและชดเชยรายได้ส่วนต่างจากอัตราค่าเช่ารับประกันเป็นเวลา 3 ปี นับจากวันที่กองทรัสต์ HREIT เข้าลงทุน ซึ่งการชดเชยรายได้ดังกล่าว จะช่วยลดความผันผวนในการดำเนินธุรกิจ และสร้างความมั่นคงของผลประกอบการของกองทรัสต์ HREIT และจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายฝ่ายทุน (CAPEX) ให้แก่ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะเพิ่มผลประโยชน์ให้กับกองทรัสต์ HREIT โดยจะเสริมให้รายได้ค่าเช่าของกองทรัสต์ HREIT มีความมั่นคงเพิ่มขึ้น และกระจายความเสี่ยงของการจัดหาผลประโยชน์ เพิ่มความหลากหลายของผู้เช่าอันเป็นแหล่งที่มาของรายได้ ซึ่งเป็นการลดการพึ่งพารายได้จากผู้เช่ารายเดิม
ข่าวเด่น